NASAปฏิบัติการบินเหนือพื้น15เมตรดูดฝุ่นวิจัย

วันศุกร์ ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2567

การดู : 469

NASAปฏิบัติการบินเหนือพื้น15เมตรดูดฝุ่นวิจัย

แชร์ :

     รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงวันที่ 16-26 มีนาคม 2567 หน่วยวิจัยคุณภาพอากาศโครงการ Airborne and Satellite Investigation of Asian Air Quality (ASIA-AQ) ภายใต้ความร่วมมือกับองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐเมริกา หรือ นาซา (NASA) จะใช้เครื่องบินสำรวจข้อมูลคุณภาพอากาศในประเทศไทยหลายจุด โดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NARIT) ระบุว่า เป็นความร่วมมือกัน ก็บตัวอย่างอากาศเหนือน่านฟ้าไทย เพื่อทำความเข้าใจต้นตอปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาระยะยาวของประเทศไทย 

ครื่องบินDC-8 บินเก็บฝุ่นเชียงใหม่

     รายงานแจ้งว่า ปฏิบัติการสำรวจข้อมูลคุณภาพอากาศดังกล่าว ใช้เครื่องบิน DC-8 โฉบลงลดระดับคล้ายเตรียมลงจอดในท่าอากาศยานต่าง ๆ และลอยอยู่เหนือพื้นเพียง 50 ฟุต (15 เมตร) จากนั้นจะไต่ระดับกลับขึ้นไปที่ความสูง 10,000 ฟุต (ประมาณ 3 กม.) ด้วยรูปแบบการบินที่เรียก missed approach โดยจะปฏิบัติการเหนือรันเวย์ของสนามบินอู่ตะเภา ดอนเมือง สุโขทัย เชียงใหม่ แพร่ พิษณุโลก บินเก็บตัวอย่างอากาศทั้งเช้าและบ่าย สนามบินละสองรอบ เป็นเวลารวม 8 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 16-26 มีนาคม 2567 ภายในเครื่องบินมีอุปกรณ์อกว่า 25 รายการ สำหรับดูดอากาศภายนอกเข้าไป เก็บข้อมูลองค์ประกอบของมลพิษทั้งรูปแบบแก๊ส-อนุภาค ทั้งชนิดและปริมาณของสารประกอบเคมีในอากาศหลายร้อยประเภท เพื่อวิเคราะห์การกระจายตัวของมลพิษในแนวดิ่งอย่างละเอียด

     ขณะเดียวกัน จะมีเครื่องบิน GIII ปฏิบัติภารกิจที่แตกต่างกัน โดยบินที่ระดับความสูง 23,000 ฟุต(7กม.) เพดานบินคงที่ บินวนไปมา เพื่อทำแผนที่สภาพอากาศเหนือเขตกรุงเทพและปริมณฑล พร้อมทั้งสำรวจความเข้มข้นของสารเคมี เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ และโอโซน เปรียบเทียบกับข้อมูลที่ได้จากดาวเทียม GEMS ของเกาหลีใต้ โดยเครื่องบินลำนี้ จะบินวันละสองถึงสามครั้ง เพื่อเปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลาของวัน

GIII  เหนือท่าอากาศยานอู่ตะเภา_

    ข้อมูลจากภารกิจ ASIA-AQ ครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการวิเคราะห์องค์ประกอบ แหล่งกำเนิด กลไกการเกิด และสัดส่วนที่มาของมลพิษอากาศเหนือน่านฟ้าไทย ในระดับชั้นความสูงต่าง ๆ ถือเป็นชุดข้อมูลใหม่ที่ประเทศไทยยังไม่เคยทราบมาก่อน การนำข้อมูลดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับข้อมูลจากดาวเทียม และสถานีภาคพื้น จะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาแบบจำลองที่จะสามารถทำการวัด และทำนายมลภาวะทางอากาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
    James Crawford นักวิจัยจากองค์การนาซา หัวหน้าโครงการ ASIA-AQ กล่าวว่าข้อมูลจากภารกิจนี้เป็นข้อมูลของสภาพอากาศเพียงไม่กี่วัน นักวิจัยจากไทยจะเป็นผู้ที่จะสานต่อผลที่ได้จากโครงการศึกษาในอนาคต เพื่อทำความเข้าใจและแก้ปัญหามลพิษทางอากาศอย่างยั่งยืนในระยะยาวของประเทศไทย 

    ดร. วิภู รุโจปการ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า NARIT เป็นหนึ่งในหน่วยงานไทยที่ได้เข้าร่วมศึกษาวิจัยคุณภาพอากาศในโครงการ Airborne and Satellite Investigation of Asian Air Quality (ASIA-AQ)  ที่จะนำเครื่องบิน DC-8 และ GIII เก็บข้อมูลอากาศในหลายพื้นที่ทั่วเอเชีย มาบูรณาการร่วมกับข้อมูลจากดาวเทียม Geostationary Environment Monitoring Spectrometer (GEMS) ของเกาหลีใต้ และสถานีวัดคุณภาพอากาศภาคพื้น (PANDORA) ที่ติดตั้งตามจุดต่างๆ บนพื้นโลก เพื่อศึกษา ทำความเข้าใจถึงปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพอากาศบริเวณต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย มีประเทศที่เข้าร่วมโครงการได้แก่ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และไทย ร่วมนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และสร้างแบบจำลอง เพื่อทำความเข้าใจสาเหตุการเกิด การเปลี่ยนแปลง เชื่อมโยงสู่ปัญหามลภาวะอากาศ ตลอดจนพัฒนาแบบจำลองและการเก็บข้อมูลจากภาคพื้น และดาวเทียมต่อไปในอนาคต
    ดร. วิภู กล่าวอีกว่ามลภาวะทางอากาศ เป็นปัญหาที่ซับซ้อน การศึกษากระบวนการเกิดการเปลี่ยนแปลงและการสลายตัว รวมถึงการวางแผนแก้ปัญหาให้ตรงจุด ต้องเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ กระบวนการต่าง ๆ ทำได้ยาก ด้วยข้อจำกัดของอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ใช้ในการศึกษา เช่น สถานีเก็บข้อมูลภาคพื้นนั้นเป็นเพียงตัวอย่างของอากาศส่วนเล็กๆ ระดับผิวเท่านั้น ไม่สามารถทราบถึงสภาพอากาศทั้งหมดที่อยู่เบื้องบนได้ มีขีดจำกัดที่ไม่สามารถศึกษาพื้นที่เป็นวงกว้างได้ อาจถูกรบกวนโดยสภาพแวดล้อมใกล้เคียง ขณะที่ดาวเทียมนั้นสามารถศึกษาในมุมกว้าง แต่สังเกตการณ์ได้เพียงปริมาณโดยรวมของทั้งมวลอากาศเหนือพื้นที่ที่ดาวเทียมกำลังศึกษา จึงไม่สามารถบอกได้ว่าสารประกอบแต่ละชนิดนั้นมีการกระจายตัวในแนวดิ่งอย่างไร

    ปัจจุบัน NARIT มีกลุ่มวิจัยวิทยาศาสตร์บรรยากาศ ที่ร่วมกับเครือข่ายวิจัยจากหน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการศึกษาวิจัยแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง PM2.5 มุ่งเน้นวิเคราะห์ชนิด ความหนาแน่น การกระจายตัว และปริมาณสารประกอบอินทรีย์ระเหยจากแหล่งชีวภาพ และติดตามละอองลอยที่เป็นต้นกำเนิดทุติยภูมิของฝุ่นละออง PM2.5 ทุกภูมิภาคของประเทศไทย การเข้าร่วมวิเคราะห์ข้อมูลจากโครงการ ASIA-AQ ในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่จะข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคุณภาพอากาศในไทย เพื่อทำนายและนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหามลภาวะทางอากาศอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต


    ทั้งนี้ โครงการ ASIA-AQ มีองค์กรนานาชาติ และหน่วยงานไทยเข้าร่วม อาทิ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ในฐานะผู้ประสานงานหลักร่วมกับ องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐเมริกา หรือ นาซา (NASA) National Institute of Environmental Research (NIER) จากประเทศเกาหลีใต้ Department of Environment and Natural Resources (DENR) จากประเทศฟิลิปปินส์ Universiti Kebangsaan Malaysia (UKM), Ministry of Environment (MOENV) แห่งไต้หวัน สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และกรมควบคุมมลพิษ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง