พริกไทยปะเหลียน: การพลิกฟื้นพืชพื้นถิ่นสู่มาตรฐานโลก

วันพุธ ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

การดู : 113

พริกไทยปะเหลียน: การพลิกฟื้นพืชพื้นถิ่นสู่มาตรฐานโลก

แชร์ :

พริกไทยปะเหลียน จากผลผลิตที่ถูกลืม หนุ่มตรังฟื้นคืนชีพพืชดั้งเดิม ใช้หลักวิทยาศาสตร์ ผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้คุณภาพ เอกลักษณ์แตกต่างจากทั่วไป เป็นพริกไทยพรีเมียม มูลค่าเพิ่มกว่า 30% นักธุรกิจเชี่ยวชาญตลาด ร่วมลงทุน ทำกลุ่มเกษตรกรมีรายได้เพิ่มกว่า 40%

เมล็ดพริกไทยตรัง 
ผลิตภัณฑ์จากสวนนายกิตติ

พริกไทยปะเหลียน จ.ตรัง กลับมาเป็นที่ยอมรับอีกครั้ง ด้วยความร่วมมือระหว่างเกษตรกรผู้มุ่งมั่น นักวิจัยผู้พัฒนานวัตกรรม และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของพืชพื้นถิ่น ทำงานกันภายใต้โครงการยกระดับพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนด้วยห่วงโซ่คุณค่าใหม่ เพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการในพื้นที่สู่ตลาดการแข่งขัน ตามแผนงาน มหาวิทยาลัยพัฒนาพื้นที่ เน้นการพัฒนาผู้ประกอบการท้องถิ่น (Local Enterprises) บนฐานทรัพยากรพื้นถิ่น สร้างเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจหมุนเวียน ของหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)

กิตติ ศิริรัตนบุญชัย

ในปี 2559 นายกิตติ ศิริรัตนบุญชัย นวัตกรชุมชน พริกไทยดำปะเหลียน ตัดสินใจเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อกลับบ้านที่จ.ตรัง ฟื้นฟูพริกไทยปะเหลียนพืชพื้นถิ่นให้กลับมา บนพื้นที่ 2 ไร่ที่มีอยู่ “พริกไทยปะเหลียนโดดเด่น มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ รสชาติเผ็ดร้อนเข้มข้น ลุ่มลึก ผลมีขนาดใหญ่เต็มเมล็ด ควรได้รับเผยแพร่ไม่ใช่ปล่อยให้หายไป”

กันต์หทัย จิตรไมตรีเจริญ Black Gold Pepper

ช่วงแรกการเพาะปลูก ต้องลองผิดลองถูก เรียนรู้การจัดการน้ำ ดิน ควบคุมโรคด้วยตัวเอง นำหลักการปลูกส้มมาประยุกต์ใช้ ซึ่งได้ผลดี นายกิตติเข้าร่วมโครงการสนับสนุนด้านความรู้ทางวิทยาศาสตร์ การปลูกแบบยั่งยืน การจัดการเกษตรกรรมสมัยใหม่ การแปรรูป และการทำตลาด เพื่อให้มีมาตรฐานการปลูกแบบ GAP (Good Agricultural Practices) ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จนได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ เป็นที่ยอมรับ

ดร.นภัสวรรณ เลี่ยมนิมิต

“ผลผลิตมีคุณภาพ ได้การยอมรับในตลาดพรีเมียม ตั้งราคาได้สูงถึง 400 บาท สูงกว่าพริกไทยทั่วไป 3 เท่า ทำให้มีกำลังใจเดินหน้าต่อ และชักชวนเกษตรกรในพื้นที่เข้ามาร่วมปลูกด้วย” นายกิตติ กล่าว

มทร.ศรีวิชัย สนับสนุนกลุ่มผู้จำหน่ายพริกไทยไปพร้อมกัน ยกระดับอุตสาหกรรมพริกไทยปะเหลียนตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยให้คำปรึกษากับเจ้าของพริกไทยปะเหลียนแบรนด์ “Black Gold Trang Pepper” เปลี่ยนสวนปาล์มเก่า 50 ไร่ มาปลูกพริกไทยปะเหลียนเมื่อปี 2562จนประสบความสำเร็จแง่ของผลิตภัณฑ์ 

เมล็ดพริกไทยตรั

“ทีมวิจัยจาก มทร.ศรีวิชัย และคุณกิตติ ทำให้เรามั่นใจเดินหน้าในธุรกิจนี้เห็นความเป็นไปได้ของพริกไทยปะเหลียนมาโดยตลอด เชื่อว่าโอกาสยังมีอยู่ หากพัฒนามาตรฐาน สร้างตลาดใหม่ที่เน้นคุณภาพได้” น.ส.กันต์หทัย จิตรไมตรีเจริญ หรือ ทราย ผู้บริหารของบริษัท แบล็คโกลด์ เทรชเซอร์ จำกัด เจ้าของแบรนด์ “Black Gold Trang Pepper” กล่าว

สวนนายกิตติ เป็น Training Hub ของพริกไทยปะเหลียน

การฟื้นฟูพริกไทยปะเหลียน มีรูปแบบการประสานความร่วมมือ นายกิตติใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการเพาะปลูก น.ส.กันต์หทัย (ทราย)เชี่ยวชาญการตลาด ช่วยพัฒนาศักยภาพเกษตรกร วิสาหกิจและผู้ประกอบการรวม 11 ราย ส่งผลให้มูลค่าพริกไทยตรังเพิ่มขึ้น 20-33.33 % รายได้ของกลุ่มเพิ่มขึ้น 43.60 % ลดหนี้สินลง 14.37 %

ดร.นภัสวรรณ เลี่ยมนิมิตร อาจารย์ประจำสาขาวิชาพืชศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย นักวิจัยผู้ร่วมพัฒนากล่าวว่าความสำเร็จในการทำงานของคุณกิตติ คือการรวมเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้ากับภูมิปัญญาชาวบ้าน ใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสม การจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ การควบคุมแมลงศัตรูพืช ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ได้ความเชี่ยวชาญด้านการตลาดของผู้ประกอบการมาเสริม ทำให้ได้ผลผลิตมีคุณภาพสูง ตอบโจทย์ตลาด สิ่งที่จะทำร่วมกันต่อไปคือ การส่งเสริมแนวทางการผลิตแบบออร์แกนิก เพื่อเพิ่มมูลค่าของพริกไทยปะเหลียนในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง