ชลประทานเตือนแม่ปิงล้นฝั่งสูงสุดล้นตลิ่ง1.5ม.คืนนี้

ชลประทาน แจ้งเตือนชาวเชียงใหม่ น้ำปิงขึ้นสูงสุด ตีหนึ่ง 5 ตค67 ระดับสูงสุด 5.15ม. สูงกว่าตลิ่ง 1.5ม. ที่ลุ่มต่ำหลายอำเภอ รวมเทศบาล ถึงจ.ลำพูน

รายงานข่าวแจ้งว่า นายอัฏฐวิชย์ นาควัชระ ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 1ได้ออกประกาศฉบับที่ 18/2567 แจ้งเตือนระดับน้ำวิกฤติแม่น้ำปิง สถานี P.1 สะพานนวรัฐ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ระบุว่า จากที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำปิงและน้ำสาขาทางตอนบนมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 3 ตค 67

สำนักงานชลประทานที่ 1 คาดการณ์ว่ามวลน้ำสูงสุดที่จะไหลผ่านสถานี P1แม่น้ำปิงที่ สะพานวรัฐ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำสูงสุดประมาณ +5.15ม. ถึง + 5.20 ม. สูงกว่าตลิ่ง 1.45-1.50ม. สูงกว่าระดับวิกฤติ ( +4.20ม.) ประมาณ 1ม. ในวันที่ 5 ตค. 67 เวลา 01.00-02.00 น.

ส่วนสถานการณ์แม่น้ำปิง วันที่ 4 ตค67 เวลา 12.00 น. สถานี P.1 สะพานนวรัฐ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำ +4.90 เมตร (สูงกว่าตลิ่ง 1.20 ม.) สูงกว่าระดับวิกฤติ (+4.20ม. ) ถึง  70 ซม. ปริมาณ 594.50 ลบ.ม./วินาที  อยู่ในเกณฑ์วิกฤติ แนวโน้มเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง

ประกาศดังกล่าว แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงที่จะประสบอุทกภัย จากน้ำปิงเอ่อล้นตลิ่ง ดังนี้

1.ที่ลุ่มต่ำตามแนวแม่น้ำปิง จ.เชียงใหม่ ประกอบด้วย อ.เชียงดาว อ.แม่แตง อ.แม่ริม อ.เมือง เทศบาลนครเชียงใหม่ อ.สารภี อ.หางดง อ.สันป่าตอง อ. ดอยหล่อ อ.จอมทอง อ.ฮอด พื้นที่จ.ลำพูน ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ป่าซาง อ.เวียงหนองล่อง อ.บ้านโฮ่ง

2. เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ พื้นที่เสี่ยงทุกโซน (โซนที่ 1-7) รวมพื้นที่ตอนล่างที่ติดต่อกับโซนที่ 7 (เขตอ.สารภี ที่เคยเกิดอุทกภัยในช่วงวันที่ 26-28 กย. 67 ที่ผ่านมา)

เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันริมแม่น้ำ คันบริเวณจุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ บูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือ บรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที และแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำ แนวเขื่อนชั่วคราว บริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) พื้นที่จุดเสียงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้าทราบ ล่วงหน้า

          รายงานแจ้งว่าช่วง 15.00 น. ตำรวจได้ประกาศให้รถทุกคันที่จอดบนถนนมหิดล ย้ายรถขึ้นไปที่สูงทั้งหมด เนื่องจากปริมาณน้ำที่สูงขึ้น

ค่ำวันที่ 4 ตค67 คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) คาดการณ์น้ำท่าสูงสุดที่สถานี P.1 อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ระดับ 710 - 740 ลบ.ม./วินาที ในวันที่ 5 ต.ค. 67 เวลา 04.00-06.00 น. ทำให้ระดับแม่น้ำปิง จะสูงกว่าตลิ่งชั่วคราวประมาณ 1.05 - 1.40 ม. จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

รายงานจาก จ.เชียงใหม่แจ้งด้วยว่า อุทกภัยครั้งนี้ นอกจากทำความเดือดร้อนกับประชาชน ช้างและสัตว์น้อยใหญ่ ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย  โดยมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม  องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านช้าง อ.แม่แตง ก็เผชิญกับน่ำท่วม ได้พยายามประสานงานผ่านช่องทางต่างๆขอความช่วยเหลือย้ายช้างและสัตว์อื่น ขึ้นเขา เพราะเส้นทางถูกตัดขาด มีดินสไลด์ปิดทาง ต้องการเรือเพื่อย้ายสัตว์เล็กในกรง

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. และ ศปช. ส่วนหน้า จ.เชียงราย แจ้งว่า ที่ประชุม ศปช. มีข้อห่วงใยสถานการณ์น้ำที่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ โดยได้รับรายงานจากสำนักงานชลประทานที่ 1 ว่า คาดการณ์ระดับน้ำสูงสุดที่ระดับ +4.93 เมตร ช่วงค่ำวันที่ 4ต.ค. ได้ประกาศแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงทั้ง 7 โซนแล้ว  

นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ได้ระดมกำลังจาก ศูนย์ ปภ.เขต 6 ขอนแก่น เสร็จภารกิจช่วยชาวหนองคายขึ้นเหนือช่วยชาวเชียงใหม่ นำเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ไปสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชน

สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา กรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบาบน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จากอัตรา 1,947 ลบ.ม./วินาที จนถึงอัตราไม่เกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที และคงอัตราต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ จึงแจ้งเตือนประชาชนบริเวณที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง , คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา , ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) , วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี และ อ.เมือง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี , วัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง ระดับน้ำจะสูงขึ้นประมาณ 20 – 30 ซม.