เชียงรายน้ำเริ่มลดนายกฯเยือนเตือนบึงกาฬเสี่ยง

สสน.คาด 13-15กย.ภาคเหนือตอนบน อีสาน กลาง ใต้ระวังฝนหนัก ล่าสุดจ.บึงกาฬฝนมาก 142 มม. พังงา ภูเก็ต เกิน 160 มม. ส่วนเชียงราย น้ำกกบางจุดยังล้นตลิ่ง แผ่นดินไหวซ้ำ นายกฯนำคณะเยี่ยมผู้ประสบภัยแม่สาย ระดับน้ำเริ่มลด ชาวบ้านกอดขอกำลังใจ ยันมีงบกลางพร้อมช่วยเหลือ เยียวยาทันทีไม่ต้องรอคลี่คลายกว่านี้

รายงานจากคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) แจ้งเมื่อวันที่13กย67 ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำลันตลิ่ง และน้ำท่วมขังในเขตเมือง บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางด้านตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ เนื่องจากฝนสะสม โดยเฉพาะจ.ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู เลย อุดรธานี นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ สกลนคร กาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานครและปริมณฑล นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ตราด ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ระนอง พังงา และกระบี่ ช่วงวันที่ 13-15 ก.ย. 67

๐ฝนหนักบึงกาฬ ภูเก็ต พังงา

รายงานแจ้งปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง มีฝนตกหนักมากบริเวณ จ.บึงกาฬ 142 มม. สระแก้ว 128 มม. ตราด 112 มม. ปราจีนบุรี 107 มม. พังงา 163 มม. อ.ถลาง จ.ภูเก็ต 161 มม.สกลนคร 96 มม. สตูล 96 มม. ระนอง 93 มม.

ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำโขงรวมถึงปากแม่น้ำในลำน้ำสาขา จ.เชียงราย เลย หนองคาย นครพนม และบึงกาฬ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากฝนที่ตกหนักบริเวณประเทศลาว

ระดับน้ำแม่น้ำสายหลัก ล้นตลิ่งบริเวณ แม่น้ำกก จ.เชียงราย แม่น้ำอิง จ.พะเยา แม่น้ำยม จ.พิษณุโลก แม่น้ำเลย จ.เลย ห้วยหลวง จ.อุดรธานี ลำเซบาย จ.ยโสธร แม่น้ำสงคราม จ.สกลนคร

๐แผ่นดินไหวซ้ำ

          อีกด้านหนึ่ง กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า เมื่อวันที่13กย. เวลา 13.27 น.เกิดแผ่นดินไหว ที่ ต.ป่าก่อดำ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ลึกระดับพื้นดิน 2 กม.

๐นายกฯบินเชียงรายเยี่ยมผู้ประสบภัย

          กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคเหนือ จ.เชียงราย โดยขณะอยู่บนเครื่องบินได้ประชุมร่วมกับนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เกี่ยวกับแผนการช่วยเหลือและภาพรวมสถานการณ์น้ำล่าสุด

          ก่อนขึ้นเครื่องบิน นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชม อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่กองทัพอากาศสนับสนุน อาทิ เรือท้องแบน เรือยาง และได้กล่าวขอบคุณกองทัพและทุกหน่วยงานที่ร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้  และยืนยันว่า ได้จัดเตรียมงบกลาง นำมาช่วยประชาชนได้ รวมทั้งการเยียวยา ขอให้ทำทันทีไม่ต้องรอสถานการณ์คลี่คลาย เพื่อเร่งบรรเทาความเดือดร้อน ในพื้นที่ที่ถูกตัดขาด ขอให้กองทัพส่งกำลังเข้าไปดูแลประชาชนอย่างเร่งด่วน พื้นที่ที่น้ำเริ่มลด ก็ให้เร่งทำความสะอาด คืนภาวะปกติให้ประชาชนโดยเร็ว

          เมื่อคณะเดินทางถึง จ.เชียงราย อ.แม่สาย ได้รับรายงานจากข้าราชการทหาร พลเรือน และข้าราชการท้องถิ่น รวมทั้งอาสาสมัคร และจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่  รับทราบว่าปริมาณน้ำในพื้นที่ได้ลดลง เข้าสู่ขั้นตอนเก็บกวาดทำความสะอาดถนน สะพาน สถานที่สาธารณะ เพื่อคืนพื้นที่ให้กับประชาชน โดยนายกรัฐมนตรี สอบถามการช่วยเหลือ ได้รับรายงานว่าช่วงแรกยากลำบาก กระแสน้ำเชี่ยวต้องใช้เจ็ตสกีขับขี่โดยผู้มีความชำนาญ บางจุดต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ส่งเสบียง อาหารและเครื่องดื่ม เป็นการบูรณาการหลายหน่วยงานช่วยเหลือประชาชน ตั้งแต่การขนย้ายของขึ้นที่สูง ให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษกับกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ระหว่างนั้นได้ทักทายและขอบคุณนายกษิดิศ ธีระประทีป ผู้ขับเจ็ตสกีเข้าช่วยลุงเขียงหมูที่ติดเต็นท์แดงด้วย

          รายงานแจ้งว่าระหว่างการตรวจเยี่ยม ชาวบ้านบางส่วนกล่าวกับนายกรัฐมนตรี ทั้งน้ำตาว่า หมดตัวแล้วไม่เหลืออะไรแล้ว นายกรัฐมนตรีตอบว่า “ยังเหลือชีวิต เหลือกำลังใจที่ต้องสู้ต่อไป” ชาวบ้านได้กอดนายกรัฐมนตรีและบอกว่า “แค่อ้อมกอดของนายกฯ ก็พอแล้ว”  นายกรัฐมนตรีตอบว่า นี่ก็เป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรีเหมือนกัน จะรีบกลับไปทำงานในเรื่องชดเชยเยียวยาช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยคนหนึ่งยังบอกกับนายกรัฐมนตรีว่า “อย่าทิ้งกัน” นายกรัฐมนตรีก็ตอบกลับว่า “ไม่ทิ้งอยู่แล้ว”

นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชน ระหว่างเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราว วัดพรหมวิหาร ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ว่าสถานการณ์น้ำดีขึ้นตามลำดับ ขอให้อดทนอีกนิด มาให้กำลังใจด้วยความจริงใจ ขอพูดจากใจว่า “ทุกคนเก่งมาก ที่ยังมีรอยยิ้ม หลังจากที่ผ่านสถานการณ์รุนแรง” วันนี้ ขอให้ทุกคนภูมิใจในตนเองว่า เก่งจริง ๆ เจอเหตุการณ์ขนาดนี้ยังสามารถยืนหยัดได้ นายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทนคณะรัฐมนตรีรวมทั้งสมาชิกรัฐสภาไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านมาให้กำลังใจพี่น้องประชาชน หนึ่งในกลุ่มประชาชนที่พักพิงในศูนย์ยังกล่าวอวยพรนายกรัฐมนตรี “ขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีไปนาน ๆ”

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยให้กับประชาชน พร้อมยาเวชภัณฑ์อุปกรณ์การรักษาพยาบาลให้กับนายอำเภอเป็นตัวแทนส่งมอบต่อให้กับประชาชน