สวทช. เปิดวิสัยทัศน์วาระ 2สร้างชาติด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วันอังคาร ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2568

การดู : 27

สวทช. เปิดวิสัยทัศน์วาระ 2สร้างชาติด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แชร์ :

สวทช.ประกาศวิสัยทัศน์วาระ 2 ร่วมมือหน่วยงานรัฐ อัดวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เน้น AI  ทั้งการศึกษาด้วย LEAD แก้ความเหลื่อมล้ำ วิเคราะห์แก้ไขการเรียนรู้รายบุคคล ด้านการแพทย์สาธารณสุข มุ่งสู่การแพทย์แม่นยำ นำปัญญาประดิษฐ์วินิจฉัยโรคจากภาพถ่ายการแพทย์ครอบคลุม 8 โรคสำคัญ  พัฒนาฐานข้อมูล ตัวชี้วัด  Net Zero เศรษฐกิจหมุนเวียน ช่วยอุตสาหกรรมไทยรับมือมาตรการเข้มงวดการค้าคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM)

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ประกาศวิสัยทัศน์และทิศทางการดำเนินงานในวาระที่ 2 สร้างชาติด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รับมอบนโยบายสำคัญจาก น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ประธานกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (กวทช.) ที่ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า สป.อว. (โยธี) - กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เมื่อวันที่วันที่ 25 สิงหาคม 2568

น.ส.สุดาวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ในฐานะประธาน กวทช. กล่าวว่าคณะกรรมการ กวทช. รับทราบผลการดำเนินงานในวาระที่ 1 ของ สวทช. ให้ความเห็นชอบแผนงานและรายชื่อคณะผู้บริหาร สวทช. ในวาระที่ 2 ภายใต้การนำของผอ. สวทช. แล้ว โดยระบุว่า สวทช. คือ ขุมพลังหลักของประเทศในการวิจัย พัฒนา ออกแบบ วิศวกรรม และถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่การใช้ประโยชน์ มีภารกิจการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปแก้ปัญหาของประเทศ กับได้มอบนโยบายให้ สวทช. ดำเนินการ 2 ด้าน ได้แก่ (1) การพัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ยกระดับเกษตรกรรมสมัยใหม่ การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  การสร้างอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Local Content) จนถึงการพัฒนาเมืองน่าอยู่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI  (2) ให้ สวทช. พัฒนากำลังคนทุกระดับ และเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการกรอบการพัฒนา AI แห่งชาติ

ศ ดร.ชูกิจ กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานในวาระต่อไป หรือ วิสัยทัศน์วาระที่ 2  สวทช. ว่าจะรับโจทย์ประเทศจากผู้ที่มีปัญหาจริง และนักวิจัยรวมพลังทำจริง จับมือกับกระทรวงต่าง ๆ เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ บริการประชาชนได้ดีขึ้น โดย สวทช. เป็นขุมพลังหลักด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ใช้หลักการ “สร้าง-ปรับ-รักษา-ละทิ้ง”  

“สร้าง เป็นธงนำการสร้างชาติด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปรับ คือ ปรับสิ่งที่นักวิจัยอยากทำ เป็นการเอาปัญหาประเทศเป็นตัวตั้ง รักษา คือ การรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพและโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่ง ให้คงอยู่ เป็นที่พึ่งของสังคม  ละทิ้ง คือ ละทิ้งความเชื่อที่ว่าความสำเร็จคือการตีพิมพ์หรือจดสิทธิบัตร”

ผอ. สวทช. กล่าวอีกว่า จะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อส่งมอบงาน วาระ 2  อาทิ ด้านการศึกษา สวทช. จับมือกระทรวงศึกษาธิการ ขับเคลื่อนการใช้ AI ผ่านแพลตฟอร์ม LEAD Education เทคโนโลยีด้านการศึกษา (EdTech) แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการเรียนรู้ โดยใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคน ด้านเกษตร จะเพิ่มศักยภาพการผลิต สร้างความมั่นคงทางอาหาร ทำงานร่วมกับหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปลี่ยนเกษตรแบบดั้งเดิม สู่เกษตรสมัยใหม่ ใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ พัฒนาโรงเรือนอัจฉริยะขนาดใหญ่ (Plant Factory) ช่วยผลิตพืชผักและสมุนไพรมูลค่าสูงได้ตลอดทั้งปี รวมทำงานร่วมกับกรมปศุสัตว์พัฒนาและขยายผลการพัฒนาวัคซีนสัตว์

ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข นำเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา สู่ การแพทย์แม่นยำ สร้างแพลตฟอร์มข้อมูลกลางการแพทย์ (Medical AI Data Platform) ของประเทศ เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการผลิต AI สำหรับการวินิจฉัยโรคจากภาพถ่ายทางการแพทย์ ปัจจุบันได้รวบรวมภาพถ่ายทางการแพทย์แล้วกว่า 2.2ล้านภาพ ครอบคลุม 8 กลุ่มโรค เช่น โรคทรวงอก มะเร็งเต้านม และโรคตา ให้นักวิจัยพัฒนาเอไอช่วยแพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ

ด้านอุตสาหกรรม ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่ออุตสาหกรรม 4.0 เข้าสู่โรงงาน แก้ปัญหามาตรฐานโรงงาน พัฒนาแพลตฟอร์มเพิ่มคุณภาพการผลิต สนับสนุนยกระดับผู้ประกอบการไทย       

โอกาสเดียวกันนี้ ศ.ดร.ชูกิจ ได้แถลงผลการดำเนินงานในวาระที่ 1 ที่พิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก สวทช. รับใช้สังคม สร้างผลกระทบในวงกว้างอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ ปฏิรูปบริการรัฐ ยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยดิจิทัล มีผลงานเด่น คือ Traffy Fondue (ทราฟฟี่ ฟองดูว์) ระบบนิเวศการบริหารจัดการเมืองด้วยข้อมูล นำไปใช้แล้วใน 29 จังหวัด ครอบคลุมประชากรกว่า 30-37 ล้านคน ส่วนราชการร่วมใช้กว่า 19,228 หน่วยงาน ช่วยรับมือในภาวะวิกฤต เช่น การแจ้งรอยร้าวอาคารเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดอุทกภัย และการแจ้งเบาะแสต้นตอของฝุ่น PM2.5

มิติสาธารณสุขได้พัฒนา แพลตฟอร์มบริการการแพทย์ดิจิทัล Digital Healthcare มีผู้ได้รับประโยชน์กว่า 7.8 ล้านคนหน่วยงานเข้าร่วม 8,441 แห่ง เป็นหัวใจของการเชื่อมต่อประชาชนกับหน่วยบริการปฐมภูมิใกล้บ้าน ลดภาระของโรงพยาบาลขนาดใหญ่และสนับสนุนนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ

ความมั่นคงด้านอาหาร ทรัพยากร และเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ใช้เทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวแห่งอนาคต สร้างความมั่นคงทางอาหาร ทำให้ได้ข้าวพันธุ์ใหม่อย่าง ข้าวเจ้าพันธุ์ไบโอเทค 1 (A1) ที่ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ให้ผลผลิตสูงถึง 800-1,000 กิโลกรัมต่อไร่ ข้าวเจ้าพันธุ์หอมชลสิทธิ์ 2 (S16) ทนทานต่อน้ำท่วมฉับพลัน ต้านทานโรคขอบใบแห้งและโรคไหม้ได้ดี  ข้าวหอมสยาม มีกลิ่นหอม รสชาติอร่อย ให้ผลผลิตดี  ได้จัดตั้งคลินิกคุณภาพน้ำ จัดการกับวิกฤตน้ำอุปโภคบริโภคโดยตรง จากข้อกังวลว่าน้ำประปาหมู่บ้านผ่านมาตรฐานน้ำดื่มเพียง 10% โดยพัฒนาเซนเซอร์ตรวจวัดสิ่งปนเปื้อนในน้ำ และเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพระบบผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน นำร่องใช้ในพื้นที่จังหวัดลำปาง เชียงราย กำแพงเพชร พิษณุโลก กาฬสินธุ์ อุดรธานี และขอนแก่น ช่วยให้ชาวบ้าน 24,000 ครัวเรือนเข้าถึงน้ำสะอาดที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน

พัฒนาฐานข้อมูลและตัวชี้วัดเพื่อ Net Zero และเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นเครื่องมือให้แก่ภาครัฐและเอกชนกว่า 180 หน่วยงาน มุ่งสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ สนับสนุนอุตสาหกรรมไทยให้พร้อมรับมือกับมาตรการทางการค้าที่เข้มงวด เช่น การปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM) ของสหภาพยุโรป ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคม 2569

แพลตฟอร์ม Food SERP ส่วนผสมฟังก์ชัน อาหารและเวชสำอาง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักขับเคลื่อนประเทศ ได้แก่ การผลิตนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ 47 รายการ เกิดการลงทุน 318 ล้านบาท สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ 4,853 ล้านบาท มีมูลค่าทางธุรกิจมากกว่า 13,000 ล้านบาท

พัฒนาแพลตฟอร์ม Industry 4.0 Platform สนับสนุนอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อเพิ่มคุณภาพการผลิต โดยสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ยกระดับอุตสาหกรรม 4.0 แบบ ครบวงจร ผลลัพธ์คือมีโรงงานอุตสาหกรรมใช้งาน Thailand i4.0 Check up 917 ราย  ถ่ายทอดเทคโนโลยี Smart Factory สู่สถานประกอบการ 117 แห่ง และพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 ของไทยให้มีระดับความพร้อมมากถึง 9 กลุ่มอุตสาหกรรม”  

 

#การแพทย์แม่นยำ  #ตสาหกรรม 4.0   #ข้าวเจ้าพันธุ์ไบโอเทค 1

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง