ภูมิปัญญา 65 ปี สู่วิถียั่งยืน มจธ.

วันจันทร์ ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568

การดู : 39

ภูมิปัญญา 65 ปี สู่วิถียั่งยืน มจธ.

แชร์ :

มจธ.จัด  KMUTT ACTS 2025 ชวนศิษย์เก่าผู้ประกอบการรุ่นใหม่ นำเทคโนโลยี นวัตกรรมผลิตออกตลาดจริงมาเสนอมุมมองการเปลี่ยนงานวิจัยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตลาดสนใจ  ปลูกฝังความเป็นผู้ประกอบการแบบยั่งยืนให้นักศึกษา

 

รศ. ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ.เป็นประธานเปิดงาน KMUTT ACTS 2025  Crafting Sustainable Futures คิด สร้างสรรค์ ลงมือทำจริง สู้จนสำเร็จ สร้างผลกระทบที่มีความหมาย ที่อาคารการเรียนรู้พหุวิทยาการ (Learning Exchange : LX) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จัดโดยงานส่งเสริมนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ (KMUTT Entrepreneurship – Hatch) และสำนักงานกิจการนักศึกษา เพื่อเสริมสร้างแนวคิดความเป็นผู้ประกอบการและความยั่งยืนให้กับนักศึกษา

ในงานมีการเสวนา Talk : จากห้องแล็บสู่ตลาดจริง มุมมองโอกาส โดย รศ. ดร.พชรพิชญ์ พรหมอุปถัมภ์ CTO บริษัท ออสซีโอแล็บส์ จำกัด, Talk: The Startup Journey บทเรียนจากศิษย์เก่าสู่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดย นารีรัตน์ แซ่เตียว CEO & Co-Founder บริษัท อินไซต์เอรา จำกัด และณัฐนภัส รชตะวิวรรธน์ CEO & Co-Founder บริษัท เบลนเดต้า จำกัด, Talk: From Ideas to Actions ผลงานโครงการ Innovation for KMUTT Sustainability โดย พิพัฒนพงศ์ ชูช่วย กับ ถูกถัง : Behavior Shift for Sustainable Impact และดิษกร รัสมี กับ การปรับปรุงระบบการกำจัดขยะตั้งแต่ต้นทาง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมหลากหลายที่ส่งเสริมให้มีแนวคิดความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurial Mindset) และให้ความสำคัญกับเรื่องของความยั่งยืน (Sustainability) จากภาคส่วนต่างๆ ของ มจธ. และหน่วยงานพันธมิตรภาคเอกชน

รศ. ดร.พชรพิชญ์  CTO ออสซีโอแล็บส์ บริษัท spin-off มจธ. กล่าวว่า การเปลี่ยนจากงานวิจัยเทคโนโลยีให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างผลกระทบในตลาด ต้องเปลี่ยนมุมมองและกระบวนการพัฒนา เริ่มด้วยการออกจากห้องแล็บไปหากลุ่มผู้ที่น่าจะใช้งานเทคโนโลยีของเรา (User) พิจารณาทุกอุตสาหกรรมไม่ใช่แค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะผู้ใช้งานคือผู้ที่บอกได้ว่าสิ่งที่เราทำขึ้นมานั้นเป็นของที่เขาต้องการและยอมที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อหรือไม่

“การเข้าไปพูดคุยกับผู้ใช้งานอย่างใกล้ชิด ทำให้เทคโนโลยีกลายเป็นสิ่งที่แก้ไขปัญหาได้จริง "Pain Killer" และการตลาดแบบบอกต่อ (Organic Marketing) โดยเฉพาะกับผู้ใช้เทคโนโลยีของเรา กลุ่มแรกสำคัญมาก ดังนั้นนอกจากคำว่า “Product-Market fit”แล้ว นักพัฒนายังต้องเข้าใจแนวคิด "Technology-Product-Market Fit" หมายถึงการมองหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตลาด นี่คือสามเหลี่ยมที่นักพัฒนานวัตกรรมควรทำความเข้าใจ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเทคโนโลยีเจ๋ง ได้ตีพิมพ์ในวารสารระดับดี แต่ผู้ใช้งานไม่ตื่นเต้น เพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือ การนำงานวิจัยออกไปสร้าง Impact การขายผลิตภัณฑ์จะเกิดขึ้นเอง หากสิ่งที่เราทำสร้างผลกระทบได้จริง”

นอกจากนี้ ในงานมีการนำเสนอผลงานวัตกรรม (Innovation Pitching) 11 ผลงาน และการนำเสนอไอเดียธุรกิจ (Business Idea Pitching) 5 ผลงาน โดยมีผลงานที่ได้รับรางวัล ดังนี้ รางวัลนวัตกรรมโดดเด่น (Promising Innovation Award) : ทีม DoFarm - เว็บแอปพลิเคชันระบบจัดการฟาร์มสัตว์น้ำ (มุ่งเน้นกุ้ง) แบบดิจิทัล, รางวัลนวัตกรรมเพื่อสังคมยั่งยืน (Sustainable Impact Innovation Award) : ทีม WasteHub – แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยเชื่อมโยงและจัดการขยะอุตสาหกรรมแบบครบวงจร, รางวัลธุรกิจที่มีศักยภาพเพื่อการเติบโต (Scale-up Ready Award) : ทีม Aquasense - ระบบตรวจสอบคุณภาพน้ำในฟาร์มปลาแบบอัตโนมัติ โดยใช้เซนเซอร์ IoT และพลังงานแสงอาทิตย์, รางวัลขวัญใจนักลงทุน (Investor's Choice Award) : ทีม Open-Microchannel  Heat Sink - การออกแบบโครงสร้างภายในแบตเตอรี่ เพื่อช่วยระบายความร้อนได้รวดเร็ว และรางวัลขวัญใจศิษย์เก่า (Alumni's Choice Award) : ทีม ViaBoon - แพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางในการให้ข้อมูลที่ชัดเจน และโปร่งใสของหน่วยงานรับบริจาคแก่ผู้ที่ต้องการบริจาค โดยทีมที่ได้รับรางวัลจะได้รับโล่ และโอกาสในการเข้าร่วมโครงการบ่มเพาะธุรกิจของมหาวิทยาลัย ได้รับคำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงมีโอกาสพบปะสร้างเครือข่ายกับนักลงทุน และได้รับการสนับสนุนต่อยอดผลงานร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ.

              รศ. ดร.สุวิทย์  อธิการบดี มจธ. กล่าวว่า ในโอกาสที่ มจธ. ครบรอบ 65 ปี มหาวิทยาลัยได้ขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ที่ 13 ให้ความสำคัญกับการพัฒนานักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัยให้ก้าวสู่ Sustainable Entrepreneurial University  มจธ.จึงเป็นสถาบันผลิตบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยี และมหาวิยาลัยผู้สร้างผู้นําการเปลี่ยนแปลง (Change agent) รุ่นใหม่ ที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความยั่งยืนผ่านการสร้างนวัตกรรมที่คำนึงถึงความสมดุลทั้งในมิติของสังคม สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ แต่การสร้าง Sustainable Entrepreneurial University ไม่ได้เพียงแค่เกิดจากการเรียนการสอนในห้องเรียนเท่านั้น แต่ต้องอาศัยการสร้างประสบการณ์จริง การเชื่อมต่อกับภาคอุตสาหกรรม และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง

          “ในอดีตการพัฒนาทักษะเราเน้นเพียงแค่คิดเป็น ทำได้ แต่ปัจจุบันเราจะต้องรู้จริง ทำได้ และขายเป็น ที่รู้ลึกในเชิงทฤษฎีและลงมือทำจริง เข้าใจตลาด เอาผลิตภัณฑ์ไปขายได้ Entrepreneurial Mindset เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการอยู่รอดในโลกอนาคตที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และผู้ที่มีแนวคิดนี้จะต้องคำนึงถึง ความคุ้มค่าเสมอ ทั้งความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ สังคม หรือมิติอื่นๆ ในการคิดและทำงาน นักศึกษาจะได้ประโยชน์ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การเป็นผู้ประกอบการได้ในอนาคต เชื่อมั่นว่า กิจกรรมวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะขับเคลื่อนให้ มจธ.ก้าวไปสู่ Sustainable Entrepreneurial University อย่างแท้จริง และเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งเพื่อการพัฒนาประเทศในอนาคต”

 

 

#จากห้องแล็บสู่ตลาดจริง   # Innovation for KMUTT Sustainability  #มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี   # KMUTT ACTS 2025  Crafting Sustainable Futures

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง