จับตา72 ชม.เสี่ยงสถานการณ์น้ำ39จังหวัด
วันพุธ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2567
การดู : 76
แชร์ :
สสน.แจ้งล่วงหน้า72 ชม.ชี้เป้า39 จังหวัดระวังสถานการณ์น้ำ ปภ.สั่ง 53 จังหวัดรวม กทม.ปริมณฑลติดตามสถานการณ์ เตรียมคน เครืองจักรพร้อมลุย แหล่งท่องเที่ยวถ้ำ น้ำตก ถ้ำลอด ที่มีความเสี่ยงห้ามเข้า ลำปางถึงน้ำวังล้นฝั่งท่วมเขตเทศบาล ม.พะเยา น้ำลด กระทรวง อว.รุดเยี่ยมให้กำลังใจ
๐72ชม.39จุดเสี่ยงสถานการณ์น้ำ
คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สนน.)รายงานเมื่อบ่ายวันที่ 18 กย.67 แจ้งพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล่วงหน้า 72 ชม.เน้นพื้นที่ 39 จังหวัด
ภาคเหนือ 9 จ. ได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ เพชรบูรณ์ ตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จ. มี จ.เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครราชสีมา
ภาคตะวันออก 5 จ. ตราด จันทบุรี ชลบุรี ปราจีนบุรี นครนายก
ภาคใต้ 10 จ. ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ ตรัง สตูล นราธิวาส และยะลา
ทั้งได้แจ้งให้เฝ้าติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พายุดีเปรสชัน ในทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง จากนั้นจะอ่อนกำลังลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีลมแรง ฝนเพิ่มขึ้น
๐ ปภ.สั่ง53 จังหวัดเตรียมพร้อมคนเครื่องจักร
วันนี้เดียวกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 53 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และคลื่นลมแรง ช่วงวันที่ 17 – 23 ก.ย. 2567 ให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง บริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัยให้เข้าเผชิญเหตุ ช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ กับให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า ประชาสัมพันธ์ให้ปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างเคร่งครัด
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 17 - 23 กย.67 มีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง 52 จังหวัด ได้แก่
- ภาคเหนือ 15 จ. ได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองฯ ปางมะผ้า ปาย สบเมย) เชียงใหม่ (อ.แม่อาย ฝางจอมทอง ฮอด) เชียงราย (อ.แม่สาย เชียงของ เชียงแสน แม่จัน แม่ฟ้าหลวง เทิง พญาเม็งราย เวียงแก่น) พะเยา (อ.เมืองฯ ปง เชียงคำ จุน ภูกามยาว เชียงม่วน) แพร่ (อ.วังชิ้น สูงเม่น เด่นชัย ลอง) น่าน (อ.ทุ่งช้าง เฉลิมพระเกียรติ ปัว บ่อเกลือ ท่าวังผา เชียงกลาง แม่จริม ภูเพียง เวียงสา) อุตรดิตถ์ (อ.ท่าปลา น้ำปาด) ตาก (อ.ท่าสองยาง แม่สอด พบพระ อุ้มผาง) สุโขทัย (อ.เมืองฯ ศรีสัชนาลัย ศรีสำโรง กงไกรลาศ) กำแพงเพชร (อ.ปางศิลาทอง คลองลาน โกสัมพีนคร พรานกระต่าย) พิษณุโลก (อ.ชาติตระการ นครไทย วัดโบสถ์ วังทอง เนินมะปราง) พิจิตร (อ.โพธิ์ประทับช้าง) เพชรบูรณ์ (อ.เมืองฯ หนองไผ่ หล่มเก่า หล่มสัก) นครสวรรค์ (อ.แม่วงก์ แม่เปิน) และอุทัยธานี (อ.บ้านไร่)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จ. ได้แก่ จ.เลย (อ.นาแห้ว เชียงคาน ด่านซ้าย ปากชม) หนองคาย (อ.เมืองฯ สังคม ศรีเชียงใหม่ ท่าบ่อ โพนพิสัย โพธิ์ตาก) บึงกาฬ (อ.เมืองฯ ปากคาด บุ่งคล้า โซ่พิสัย เซกา บึงโขงหลง) หนองบัวลำภู (อ.สุวรรณคูหา) อุดรธานี (อ.นายูง น้ำโสม) สกลนคร (อ.เมืองฯ ภูพาน สว่างแดนดิน) นครพนม (อ.เมืองฯ ศรีสงคราม) ชัยภูมิ (อ.เมืองฯ คอนสาร หนองบัวแดง) ขอนแก่น (อ.เมืองฯ ภูผาม่าน ชุมแพ บ้านไผ่) มหาสารคาม (อ.เมืองฯ) กาฬสินธุ์ (อ.เมืองฯ ยางตลาด ร่องคำ) มุกดาหาร (อ.เมืองฯ หว้านใหญ่ ดอนตาล) ร้อยเอ็ด (อ.เมืองฯ เสลภูมิ) ยโสธร (อ.เมืองฯ ป่าติ้ว คำเขื่อนแก้ว) อำนาจเจริญ (อ.เมืองฯ ชานุมาน) นครราชสีมา (อ.ปากช่อง วังน้ำเขียว) บุรีรัมย์ (อ.เมืองฯ) สุรินทร์ (อ.เมืองฯ ปราสาท) ศรีสะเกษ (อ.เมืองฯ ยางชุมน้อย) และอุบลราชธานี (อ.เมืองฯ วารินชำราบ ตาลสุม น้ำยืน พิบูลมังสาหาร น้ำขุ่น)
- ภาคกลาง 9 จ. ได้แก่ จ.กาญจนบุรี (อ.สังขละบุรี ทองผาภูมิ) นครนายก (อ.เมืองฯ ปากพลี) ปราจีนบุรี (อ.กบินทร์บุรี นาดี) สระแก้ว (อ.เมืองฯ) ฉะเชิงเทรา (อ.สนามชัยเขต ท่าตะเกียบ) ชลบุรี (อ.ศรีราชา บางละมุง) ระยอง (อ.เมืองฯ แกลง บ้านค่าย) จันทบุรี (อ.เมืองฯ เขาคิชฌกูฏ สอยดาว โป่งน้ำร้อน มะขาม ขลุง) และตราด (ทุกอำเภอ)
- ภาคใต้ 9 จ. ได้แก่ จ.ชุมพร (อ.พะโต๊ะ สวี) สุราษฎร์ธานี (อ.พนม บ้านตาขุน) นครศรีธรรมราช (อ.พิปูน ช้างกลาง ลานสกา) ระนอง (ทุกอำเภอ) พังงา (อ.เมืองฯ คุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง ท้ายเหมือง) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) กระบี่ (อ.เมืองฯ เหนือคลอง อ่าวลึก คลองท่อม ปลายพระยา เกาะลันตา) ตรัง (อ.เมืองฯ ปะเหลียน นาโยง กันตัง สิเกา ห้วยยอด วังวิเศษ) และสตูล (อ.เมืองฯ ควนโดน ควนกาหลง ทุ่งหว้า มะนัง)
มีพื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ภาคกลาง 4 จ. ได้แก่ จ.ชลบุรี (อ.เมืองฯ ศรีราชา เกาะสีชัง บางละมุง สัตหีบ) ระยอง (อ.เมืองฯ บ้านฉาง แกลง) จันทบุรี (อ.นายายอาม ท่าใหม่ แหลมสิงห์ ขลุง) และตราด (อ.เมืองฯ แหลมงอบ คลองใหญ่ เกาะช้าง เกาะกูด) ภาคใต้ 6 จ. จ.ระนอง (อ.เมืองฯ สุขสำราญ กะเปอร์) พังงา (อ.เกาะยาว ตะกั่วทุ่ง ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า คุระบุรี) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) กระบี่ (อ.เมืองฯ คลองท่อม เกาะลันตา เหนือคลอง อ่าวลึก) ตรัง (อ.กันตัง สิเกา ปะเหลียน หาดสำราญ) และสตูล (อ.เมืองฯ ละงู ท่าแพ ทุ่งหว้า)
โดย กปภ. ระบุว่า จากการติดตามสภาวะอากาศและปัจจัยเสี่ยงประกอบกับการแจ้งเตือนองกรมอุตุนิยมวิทยาว่า พายุดีเปรสชันในทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังเป็นพายุโซนร้อน คาดว่าวันที่ 20 - 21 กย. 67 จะขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักถึงหนักมาก มีลมแรง ช่วงวันที่ 20 - 23 กย. 67 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ รวมทั้งกทม.-ปริมณฑล อีกทั้งช่วงวันที่ 17 - 21 กย.67 ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรง พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย
ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ รวมทั้ง กทม.และปริมณฑลล มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร
๐ แหล่งเที่ยวธรรมชาติเสี่ยงห้ามเข้า
ข่าวแจ้งว่า ปภ. ได้แจ้งทั้ง 53 จ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ในพื้นที่เสี่ยง ให้เตรียมพร้อมรับมือกับฝนที่ตกหนัก อาจเกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน สถานการณ์น้ำต่อเนื่อง ตลอด 24 ชม. โดยเฉพาะพื้นที่ฝนตกหนัก ติดต่อกันเป็นเวลานาน จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมเป็นประจำ ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน
สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะ ถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดภัย ให้ประกาศเตือน ปิดกั้นไม่ให้เข้าพื้นที่เด็ดขาด จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง กรณีมีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำเด็ดขาด ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ เตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากมีแนวโน้มรุนแรง ห้ามเดินเรือออกจากฝั่งเด็ดขาด ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น
๐เขตเทศบาลลำปางท่วม1เมตร
เทศบาลนครลำปาง รายงานเมื่อเวลา16.00น.วันที่18กย67 พบว่ามีปริมาณน้ำแม่น้ำวังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เอ่อท่วมถนนเลียบแม่น้ำวัง เนื่องจากมีฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่อง เกิดน้ำป่าไหลหลาก มีน้ำสมทบจากลำน้ำสาขาไหลลงสู่แม่น้ำวัง
ข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่เวลา 11.30 น. จนถึงเวลา 12.30 น. ระดับแม่น้ำวังในเขตเทศบาลนครลำปาง เพิ่มสูงขึ้น 50 ซม. อย่างรวดเร็ว คาดว่าจะสูงขึ้นอีก 50 ซม.ถึง 1 ม. ภายในวันเดียวกัน
ทางเทศบาลเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำวัง ตั้งแต่สะพานเสตุวารี สะพานท่ามะโอ จนถึงสะพานพัฒนาภาคเหนือ (เขตต.เวียงเหนือ) ขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ขอรับกระสอบทรายได้ฟรี ที่อาคารดับเพลิงเทศบาลนครลำปาง และสถานีดับเพลิงปงสนุก
๐ อว.รุดให้กำลังใจนศ.พะเยา
ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยพะเยา จ.พะเยา เยี่ยมให้กำลังใจ ให้ความช่วยเหลือนักศึกษา และประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ โดยไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ณ หอพัก UP DORM 8, 23 หอพัก มพ 17 ภายในมหาวิทยาลัย นำอาหาร น้ำดื่ม ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปมอบให้ ทั้งได้ให้กำลังใจผู้ประสบภัย พูดคุยสอบถามข้อเท็จจริงและความต้องการช่วยเหลือต่าง ๆ เพื่อเร่งบรรเทาความเดือดร้อนโดยด่วน
ศ.ดร.ศุภชัย กล่าวว่าได้รับมอบหมายจาก น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. ให้ลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจ ให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู และเยียวยานักศึกษาและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ ขณะนี้บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทิ้งความเสียหายไว้มากมาย มีนักศึกษากว่า 50 คน สูญเสียทรัพย์สินเกือบหมด ทั้งเสื้อผ้า คอมพิวเตอร์ ไอแพด มือถือ อุปกรณ์การเรียนต่างๆ เพราะน้ำมาเร็วมาก ต้องรีบเอาชีวิตรอดขนย้ายไม่ทัน ขอชื่นชมมหาวิทยาลัยที่เข้มแข็งมากในการช่วยเหลือนักศึกษาและชุมชนอย่างรวดเร็ว มีระบบบริหารจัดการในภาวะฉุกเฉิน ทางกระทรวง อว.พร้อมสนับสนุนความช่วยเหลือทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการฟื้นฟูเให้ทุกอย่างกลับมาเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
ข่าวอัพเดท