ฟู้ดแบงก์สู่ปทุมธานี ตลาดสี่มุมเมือง เซียร์ ฟิวเจอร์พาร์ค ตลาดไท สนับสนุน

สวทช. จับมือมูลนิธิ SOS และ จ.ปทุมธานี สร้างชุมชนรักษ์อาหาร ทำโครงการ "ปทุมธานีฟูดแบงก์โมเดล" จัดการอาหารส่วนเกินระดับท้องถิ่นมุ่งใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีบริหารจัดการอาหารส่วนเกินอย่างยั่งยืน

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี และมูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS) ลงนามความร่วมมือใน “การขยายผลโครงการบริหารจัดการอาหารส่วนเกิน เพื่อลดขยะอาหารและสร้างความมั่นคงทางอาหารในชุมชน” โดยใช้กลไกชุมชนรักษ์อาหาร (Local Food Rescue) โดยจัดขึ้นที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ วันที่ 2 พ.ค.68

โครงการดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางใน จ.ปทุมธานี อาทิ ผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ประสบภัย ควบคู่ไปกับการลดขยะอาหาร เพื่อการพัฒนาปทุมธานีต้นแบบการจัดการอาหารส่วนเกิน (Pathum Thani Food Bank Model)  โดยระยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ที่เหมาะสม ความปลอดภัยอาหาร การเก็บรักษา การขนส่ง การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ การแจกจ่าย การคำนวณข้อมูลการปล่อยคาร์บอน ซึ่งจะเป็นต้นแบบการดำเนินงานในจังหวัดอื่น ๆ อีก 7 จังหวัดตามเป้าหมายภายในปี 2568 ทั้งนี้ โดยมีภาคีเครือข่ายผู้ร่วมบริจาคอาหารส่วนเกิน ได้แก่ ตลาดสี่มุมเมือง เซียร์รังสิต ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ตลาดไท และซีพีแรม

ผู้สนใจทุกภาคส่วนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สวทช. โทร. 02 5647000 อีเมล Foodbank@nstda.or.th และมูลนิธิ SOS โทร. 02 0751417, 062 6750004 และ Facebook: @sosfoundationthai

นายทวี อิ่มพูลทรัพย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย มูลนิธิ สโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS) กล่าวว่า โครงการริเริ่มขึ้นด้วยความตระหนักถึงปัญหาอาหารเหลือทิ้งและความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อผู้ด้อยโอกาสและสิ่งแวดล้อม วันนี้จึงเป็นอีกก้าวในการขับเคลื่อนโครงการรักษ์อาหาร จ.ปทุมธานี เพื่อพัฒนาระบบการจัดการอาหารส่วนเกิน สร้างความตระหนักรู้เรื่องการบริโภคอาหารอย่างยั่งยืน สนับสนุนการเข้าถึงอาหารของผู้ด้อยโอกาส เพื่อการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมไทย

พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า อบจ.ปทุมธานี จะเป็นศูนย์กลางประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาสังคม สร้างเครือข่ายผู้บริจาคอาหาร เชื่อมโยงผู้ผลิตอาหาร ตลาดค้าส่ง ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ โรงแรม และภาคธุรกิจให้เข้ามามีบทบาทบริจาคอาหารส่วนเกินแก่กลุ่มเป้าหมาย สำรวจข้อมูลกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้การกระจายอาหารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง จัดหา สนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็นต่อการดำเนินโครงการ เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางหรือผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงอาหารได้มากขึ้น ลดภาระครัวเรือน และยกระดับคุณภาพชีวิต ลดปริมาณขยะอาหาร ลดมลภาวะทางสิ่งแวดล้อม ลดงบประมาณการจัดการขยะได้

ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผอ. สวทช. กล่าวว่า สวทช. ได้พัฒนาเครื่องมือและแพลตฟอร์มเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการอาหารส่วนเกิน โดยจัดทำแนวปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยอาหารสำหรับการบริจาคอาหาร โดยไบโอเทค การพัฒนาแพลตฟอร์มและระบบฐานข้อมูลเชื่อมโยงผู้บริจาคอาหาร ผู้รับอาหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเนคเทค การศึกษาวิจัยผลกระทบของอาหารส่วนเกินต่อสิ่งแวดล้อมและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยเอ็มเทค มีทีมวิจัยนโยบายที่ศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อสนับสนุนกระบวนการบริจาคอาหารส่วนเกินและจัดตั้งเป็นธนาคารอาหารของประเทศไทย (Thailand’s Food Bank)

คณะผู้บริหารและหน่วยงานที่ร่วมลงนามความร่วมมือ พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย ได้ไปยังชุมชนบ้านมั่นคง โครงการสหกรณ์เคหสถานปทุมธานีโมเดล จำกัด (ตรงข้าม ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต) ซ.คลองหลวง 35 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อส่งต่ออาหารส่วนเกินให้แก่ชาวบ้านในชุมชนกว่า 200 คน แสดงเจตนารมณ์การดำเนินโครงการ ฯ ใน จ.ปทุมธานี เพื่อให้การส่งต่ออาหาร และขยายผลด้วยกลไกชุมชนรักษ์อาหารภายใต้ปทุมธานีฟูดแบงก์โมเดล ช่วยชุบชีวิตให้อาหารไม่กลายเป็นขยะอย่างสูญเปล่า สร้างความมั่นคงทางอาหารให้ผู้มีรายได้น้อยในสังคมได้อย่างแท้จริง