อศม.กลไกหยุดเด็กหลุดจากระบบ สู่Thailand Zero Dropout

วันพุธ ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568

การดู : 11

อศม.กลไกหยุดเด็กหลุดจากระบบ สู่Thailand Zero Dropout

แชร์ :

มจธ. ราชบุรี เปิดโมเดล อาสาสมัครการศึกษาหมู่บ้าน (อศม.) ให้คนจบ ม.6 หรือปริญญาตรี ในพื้นที่เป็นผู้ช่วยครู กลไกหยุดเด็กหลุดจากระบบ เชื่อมโยงโรงเรียนกับชุมชนและครอบครัว  สู่ Thailand Zero Dropout

 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (ราชบุรี)  (มจธ. ราชบุรี) แจ้งว่าได้นำร่องกลไกอาสาสมัครการศึกษาหมู่บ้าน (อศม.) กับ 5 โรงเรียนในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ขยายต่อไปยังโรงเรียนอื่นในพื้นที่ชายขอบ ดร.รัตนา รุ่งศิริสกุล อาจารย์ประจำ มจธ. ราชบุรี อธิบายว่า อศม. ช่วยครูสนับสนุนการเรียนของเด็กในพื้นที่ห่างไกล โดยจะได้รับการพัฒนาทักษะด้านเทคนิค การจัดการเรียนรู้ การใช้คู่มือสอนภาษาไทยสำหรับผู้ไม่ใช่ครู เพื่อแก้ปัญหาเด็กอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน ติดตามเด็กกลุ่มเสี่ยง และจัดกิจกรรมเสริมทักษะพื้นฐานให้กับเด็กในชุมชน เป็นก้าวสำคัญของการสร้างกลไกการศึกษาโดยคนในพื้นที่ ให้เด็กทุกคนมีโอกาสเรียนรู้อย่างเท่าเทียม

อศม.เกิดจาก ดร.กฤษณพงษ์ กีรติกร ที่ปรึกษา มจธ. แนะนำให้ใช้กลไกอาสาสมัครการศึกษา โดยศึกษาการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ดูแลสุขภาพระดับชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนวคิดดังกล่าวได้รับการต่อยอดเป็นอาสาสมัครการศึกษาหมู่บ้าน หรือ อศม. ให้มีคนในพื้นที่ที่มีความรู้ เช่น ผู้จบ ม.6 หรือปริญญาตรี ทำหน้าที่ผู้ช่วยครู เชื่อมโยงโรงเรียนกับชุมชนและครอบครัว  

การค้นหาเด็กที่หลุดจากระบบใช้การเดินเท้าเคาะประตูบ้าน อาศัยเครือข่ายท้องถิ่น ได้แก่ อสม. สาธารณสุข กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครู กศน. และอศม. ใช้เวลา 3 เดือน ก็ได้ข้อมูลเด็กหลุดจากระบบประมาณ 400 คน ใน 5 อำเภอ การเดินเท้าในชุมชนมีความละเอียดและถูกต้อง เพราะได้เห็นเด็กจริง ๆ มีการตรวจทานข้อเท็จจริงกับข้อมูลเด็กหลุดออกจากโรงเรียนที่สำรวจพบจากข้อมูลทะเบียน

โครงการค้นหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษา (Zero Dropout) จังหวัดราชบุรี นอกจากการนำเด็กกลับเข้าสู่โรงเรียนแล้ว ยังริเริ่มแนวคิด 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ จัดการเรียนทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ให้การเรียนรู้มีความยืดหยุ่น รองรับเด็กที่มาเรียนได้ไม่ครบทุกวัน เนื่องจากต้องช่วยพ่อแม่ทำงาน เปิดโอกาสให้เด็กเรียนจากที่บ้าน หรือเรียนตามอัธยาศัยที่มีหลักสูตรเฉพาะ เพื่อให้เด็กทุกคนได้รับโอกาสการเรียนและเรียนต่อจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน

มจธ.ราชบุรี  ได้ทำงานกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 พัฒนาหลักสูตรสมรรถนะอาชีพ เชื่อมโยงการเรียนรู้กับปากท้องและอาชีพ ในชุมชน เช่น การเลี้ยงไก่, การเลี้ยงปลา, การปลูกผัก, การทำสบู่  เพื่อสร้างการเรียนรู้บูรณาการทั้งความรู้ (Knowledge), ทักษะ (Skill) และทัศนคติ (Attitude) หรือ K-S-A  โดยจัดทำคู่มือเพื่อให้โรงเรียนพื้นที่อื่นนำไปปรับใช้ได้ทันที เอื้อต่อการขยายผลไปยังพื้นที่ที่มีบริบทคล้ายราชบุรี เช่น น่าน อมก๋อย หรือ ตาก  ทั้งได้ร่วมกับภาคีที่เกี่ยวข้องจัดตั้งสมัชชาการศึกษาจังหวัดราชบุรี เป็นกลไกการทำงานคู่ขนานกับภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาเด็กหลุดออกจากโรงเรียน บรรเทาปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 

อาจารย์รัตนา กล่าวว่า Zero Dropout ไม่ได้หมายถึงไม่มีเด็กหลุดออกจากโรงเรียนเลย แต่หมายถึงมีกลไกติดตามให้เด็กทุกคนอยู่ในสายตา ต้องรู้ว่าเด็กอยู่ที่ไหน อยู่ในสถานะใด ทำอย่างไรให้เขาได้รับโอกาสทางการศึกษาที่เหมาะสมที่สุด

ความสำเร็จของอศม. ได้ต่อยอดสู่การทำงานเชิงระบบ ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม( ววน.) และหน่วยบริหารและจัดการทุนพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)  ในโครงการการพัฒนาระบบอาสาสมัครการศึกษาหมู่บ้าน เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา สร้างโอกาสการประกอบอาชีพ และลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ชายขอบ: กรณีศึกษาอําเภอจอมบึง-สวนผึ้ง-บ้านคา จังหวัดราชบุรี” กลไกอาสาสมัครการศึกษาหมู่บ้าน (อศม.) เป็นกลไกการทำงาน สนับสนุนเป้าหมายระดับชาติในโครงการZero Dropout แก้ปัญหาเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา โดยการสนับสนุนจากบริษัทแสนสิริ ผ่านกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) มีจังหวัดราชบุรีเป็นพื้นที่นำร่องในการขับเคลื่อน

จังหวัดราชบุรีเป็นหนึ่งในพื้นที่สะท้อนปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษา ในปี 2567 มีเด็กกว่า 13,000 คน ไม่มีชื่อในระบบการศึกษา ส่วนใหญ่เกิดจากบริบทด้านเศรษฐกิจและสังคม เด็กจำนวนมากต้องช่วยพ่อแม่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ดูแลผู้สูงอายุ หรือมีภาระทางเศรษฐกิจกดทับ ทำให้เด็กหลายคนหายไปจากห้องเรียนโดยไม่มีใครรู้ตัว

 

 

#อาสาสมัครการศึกษาหมู่บ้าน (อศม.)  #โครงการค้นหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษา (Zero Dropout)

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง