DDC-Care Platform ระบบดูแลป้องกันโรคเพื่อผู้แสวงบุญ
วันพุธ ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2568
การดู : 88

แชร์ :
สวทช. - กรมควบคุมโรค ผนึกกำลังนำ DDC-Care Platform เทคโนโลยีรับมือโรคระบาดจากโควิด 19 มาใช้ป้องกัน MERS-CoV บริการกลุ่มผู้แสวงบุญชาวไทยที่ไปร่วมพิธีฮัจญ์ ซาอุดิอาระเบีย
นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แถลงข่าว ที่อาคารพระจอมเกล้า กระทรวง อว. เมื่อวันที่ 30 เม.ย.68 ถึง ความสำเร็จ DDC-Care เฝ้าระวังโรคเมอร์ส (MERS-CoV) กับผู้แสวงบุญที่เดินทางเข้าร่วมพิธีฮัจญ์ โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พัฒนา DDC-Care Platform เทคโนโลยีรับมือโรคระบาดข้ามพรมแดน เพื่อเฝ้าระวังโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์ส MERS-CoV อย่างเข้มงวด เป็นการทำงานเชิงรุก เฝ้าระวังโรคตามมาตรการสาธารณสุขกับผู้แสวงบุญชาวไทยที่เดินทางกลับจากการเข้าร่วมพิธีฮัจญ์
นายศุภชัย กล่าวว่า ระบบนี้ พัฒนาโดยนักวิจัยไทย ช่วยสร้างความเข้มแข็งในวงการสาธารณสุขไทยอย่างแท้จริง ขอย้ำว่า ไม่ได้ต้องการให้เกิดความกังวลในหมู่พี่น้องชาวไทยมุสลิมว่าการไปแสวงบุญ จะมีการแพร่ระบาดหรือติดเชื้อโรคดังกล่าว เป็นมาตรการป้องกันของรัฐบาล ต่อยอดจากแนวคิด "Hajj 5G 5Good" ได้แก่ Good Price (ราคาดี มีคุณภาพ), Good Service (บริการดี), Good Care (เอาใจใส่ดี), Good Health (สุขภาพดี) และ Good Relations (ความสัมพันธ์ดีระหว่างประเทศ)
โดยเฉพาะในข้อที่ 4 คือ Good Health หรือ สุขภาพดี นอกจากทีมแพทย์ที่เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงสาธารณสุข ที่ไปดูแลสุขภาพผู้แสวงบุญ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ยังติดตามดูแลสุขภาพของท่านหลังจากกลับมายังประเทศไทย ขอความร่วมมือให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ขอบคุณทุกหน่วยงานภาครัฐที่ช่วยกันยกระดับการรับมือกับการระบาดของโรค สร้างความปลอดภัยให้กับชาวมุสลิมและประชาชนชาวไทย
ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผอ.สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า DDC-Care พัฒนาโดย สวทช. ร่วมกับ กรมควบคุมโรค สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สนับสนุนระบบ Cloud เป็นระบบติดตามผู้มีความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อโควิด19เพื่อรักษาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที จุดเด่นคือประยุกต์ใช้ป้องกันและเฝ้าระวังโรคอุบัติซ้ำ หรือ โรคติดต่ออันตราย กรมควบคุมโรค น ไปใช้เฝ้าระวังความเสี่ยงโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ โรคเมอร์ส ในกลุ่มคนไทยเชื้อสายมุสลิมที่ไปประกอบพิธีทางศาสนาในตะวันออกกลาง ตั้งแต่ปี 2566 จนถึงปัจจุบัน
สวทช. ยังได้พัฒนาต่อยอดระบบวัคซีนพาสปอร์ต INTERVAC มาสู่ INTERVAC HAJJ สำหรับออกใบรับรองการฉีดวัคซีนทั้งสิ้น 4 ชนิด ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรค COVID-19 โรคไข้กาฬหลังแอ่น โรคไข้หวัดใหญ่ และไข้เหลือง กับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ เริ่มใช้งานมาตั้งแต่ปี 2565 ระบบ INTERVAC อำนวยความสะดวกกับเจ้าหน้าที่ในการบันทึกข้อมูลการฉีดวัคซีนและประชาชนที่เข้ารับบริการ จากรูปแบบสมุดเล่มเหลือง เขียนด้วยลายมือ รองรับปริมาณและความต้องการของประชาชนได้ไม่มาก เทียบกับINTERVAC มาใช้ เมื่อเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลแล้วก็พิมพ์สมุดเล่มเหลืองได้ทันที พร้อม QR Code ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์
นายแพทย์ดิเรก ขำแป้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าได้ใช้ DDC-Care เฝ้าระวังความเสี่ยงโรคเมอร์ส ใน 7 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จ.ตรัง สงขลา พัทลุง สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส บริการกลุ่มผู้แสวงบุญที่เข้าร่วมพิธีฮัจญ์ ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของความสำเร็จจากความร่วมมือของหลายภาคส่วนในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเฝ้าระวังและรับมือกับสถานการณ์โรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำ หรือโรคติดต่อร้ายแรง ช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดตามและควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว
การแถลงข่าวมีทีมวิจัย สวทช. ประกอบด้วย ดร.อนันต์ลดา โชติมงคล ดร.นัยนา สหเวชชภัณฑ์ และ ดร.ชาลี วรกุลพิพัฒน์ ทีมนักวิจัย สวทช. แนะนำ DDC-Care Platform และ INTERVAC ระบบวัคซีนพาสปอร์ต สาธิตการใช้งาน DDC-Care Platform ในการเฝ้าระวังและควบคุมโรค โดยผู้แทนจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ดร.อนันต์ลดา กล่าวว่าใช้งานง่าย ผู้ใช้เพียงกรอกข้อมูลตอบอาการที่มีหรือไม่มีในแต่ละวัน ระบบจะประเมินความเสี่ยงโรคซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 ระดับ ไม่เสี่ยงสีเขียว เสียงต่ำสีเหลือง ปานกลางสีส้ม เสี่ยงมากเป็นสีแดง รายที่มีความเสี่ยงมาก จะแนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ มีปุ่มให้โทรออกติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมโรค 1422 โดยอัตโนมัติ การใช้งานเทคโนโลยีอาจมีปัญหากับผู้สูงอายุบ้าง ก็ให้ลูกหลานช่วยสอนได้ ในพื้นที่สาธารณสุขเขต 12 เจ้าหน้าที่เวียนไปให้คำแนะนำ
นายประสิทธิ์มะหะหมัด เลขานุการราชมนตรี กล่าวว่า การประกอบพิธีฮัจญ์ปีนี้ นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรีนำคณะเดินทางไปด้วย ในการประชาสัมพันธ์การใช้ DDC-Care Platform เพื่อการเฝ้าระวังโรค มีความละเอียดอ่อน การกระจายข่าวให้ทราบในวงกว้าง ต้องขอความร่วมมือทุกฝ่าย คือผู้ประกอบการนำการเดินทาง รวมทั้งจุฬาราชมนตรี ดังนั้น จะนำข้อมูลการแถลงข่าวไปรายงานจุฬาราชมนตรีในฐานะหัวหน้า เพื่อแจ้งผู้แสวงบุญถึงความห่วงใยของรัฐบาลว่าภายหลังกลับจากประกอบพิธีฮัจญ์อย่างน้อย 14 วันจะได้รับการดูแลจากโปรแกรมตัวนี้
ข่าวอัพเดท

เผยผลชันสูตรซากวาฬคูเวียร์เกยตื้น จ.ระนอง
วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

โชว์ต้นแบบฟาร์มไข่ผำพรีเมียมด้วยเทคโนโลยี IoT
วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

“ครัวคุณต๋อยยกทัพ บุก เซ็นทรัล หาดใหญ่” เสิร์ฟ 70 ร้านหรอยแร๊งง…คัดสรรมือโปรพร้อมโชว์ฝีมืออร่อย!
วันศุกร์ ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

อว.ระดมสารพัดไฮเทคลุ้นรับมือพิบัติน้ำท่วม
วันจันทร์ ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
