ชี้โอกาสไทยยังมีให้ลงทุนวิจัยนวัตกรรมที่คืนทุนไวใช้ได้จริง
วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
การดู : 58

แชร์ :
สกสว.จัดเวทีชวนกระตุก GDP ไทยด้วยกองทุนวิทยาศาสตร์วิจัย และนวัตกรรม ศุภมาส อิศรภักดี เป็นฟันเฟืองเคลื่อนเศรษฐกิจให้แข่งได้ในเวทีโลก กฤษณ์ จันทโนทก ซีอีโอไทยพาณิชย์ ระบุไทยไม่ขาดความรู้ ขาดระบบเชื่อมงบวิจัยเป็นนวัตกรรมเศรษฐกิจ แนะลงทุนคุณภาพทุนมนุษย์และสถาบัน กอบศักดิ์ ภูตระกูล มองแง่ดี แจงคลื่นลงทุนรอบใหม่มุ่ง เอเชียและอาเซียนเป็นศูนย์กลางใหม่ของโลก ให้เปิดประเทศ พัฒนาเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานรองรับ
น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดงาน Dinner Talkกระตุก GDP ไทยด้วยกองทุน ววน. แนวคิด ‘มองจุดร่วม สร้างจุดเปลี่ยน ร่วมสร้าง GDP ไทย ด้วยกองทุน ววน.’ จัดโดยสำนักยุทธศาสตร์แผน ติดตามและประเมินผล สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า กระทรวง อว. พร้อมสนับสนุนงบประมาณและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาระบบนิเวศให้เอื้อต่อนำงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้อย่างเป็นรูปธรรม เชื่อมั่นว่าวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ( ววน.) จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยแข่งขันได้ในเวทีโลก ช่วยให้เศรษฐกิจภาพรวมเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนได้ ประเทศไทยยังมีโอกาสสร้างเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยใช้ ววน. เป็นเครื่องมือขับเคลื่อน ได้แก่ งานวิจัยด้านเทคโนโลยีเซนเซอร์และ IoT สำหรับเกษตรกรรม การสร้างอุตสาหกรรมใหม่ การเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า การพัฒนากำลังคนระดับสูงเฉพาะทาง การเพิ่มขีดความสามารถของแรงงานเพื่อรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และสถาบันวิจัย ให้มีสัดส่วนการลงทุนด้านการวิจัยมากขึ้น ทำวิจัยและต่อยอดอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานกรรมการอำนวยการ สกสว. และประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าสิ่งที่ประเทศไทยขาดไม่ใช่ความรู้หรือแรงบันดาลใจ แต่ขาดระบบเชื่อมต่อ เปลี่ยนงบวิจัยให้เป็นนวัตกรรมเชิงเศรษฐกิจ เราต้องกล้าสร้างเครื่องยนต์ใหม่ให้กับประเทศ การสร้างนวัตกรรมต้องลงทุนกับคุณภาพทุนมนุษย์และสถาบัน ความท้าทายคือต้องทำให้งานวิจัยเกิดผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ปัจจุบันประเทศไทยมีงานวิจัยจำนวนมาก ต้องเร่งเสริมการต่อยอดเชิงพาณิชย์ อนาคตของประเทศยังศรัทธาในศักยภาพ ทุน และความรู้ แต่ต้องหาทางเชื่อมโยง เดินไปด้วยกัน พลังของคนไทยไม่ทิ้งกันในยามคับขัน ต้องร่วมมือให้เกิดผลลัพธ์ที่จับต้องได้ วางโครงสร้างใหม่ เชื่อว่าถ้าทุกคนกล้าเปลี่ยน ระบบ ววน.ไทยจะเป็นฟันเฟืองให้ไทยประสบความสำเร็จได้
ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ กสว. และประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ระบุว่า หากไทยต้องการเป็นเสือเศรษฐกิจ ต้องคิดสร้างปัญญา ให้สังคมเห็นประโยชน์ การลงทุนงานวิจัยและนวัตกรรมต้อง ‘ คืนทุนไว ใช้ได้จริง ยิงสุดทาง’ ทำโครงการที่ดี ตอบโจทย์เศรษฐกิจและสังคม ที่เห็นผลเร็ว เกิดผลในระยะยาว รู้ว่าจะขายหรือแข่งขันกับใคร ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมคือ สถาบันเทคโนโลยีอุตสาหกรรมที่สร้างนวัตกรรมใช้ได้จริง เป็นโมเดลที่ชี้ให้เห็นว่าการวิจัยต้องมีภารกิจชัดเจน มีความรับผิดชอบ ต้องตัดงานวิจัยที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ เพื่อให้เกิดความเชื่อถือจากคนในประเทศ ก้าวแรกต้องตีโจทย์และออกแบบโครงการให้ทะลุ เป็นงานวิจัยที่แก้พัฒนาเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาสังคมได้ มีผู้ใช้ตั้งแต่แรก และปรับระบบแรงจูงใจ
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ เลขานุการบริษัทและกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บรรยายหัวข้อ การลงทุนภาครัฐและเอกชน: กุญแจสู่การเติบโตของ GDP ไทย โดยกล่าวว่า บุญเก่าของประเทศกำลังจะหมด อุตสาหกรรมที่เคยเก่งกำลังตกยุค ประเทศไทยต้องลอกคราบ ปลดล็อกและสร้างบุญใหม่ ช่วงชิงคลื่นการลงทุนรอบใหม่ในอาเซียน ซึ่งเป็นโอกาสเดียวในรอบหลายทศวรรษ หากพลาดวันนี้อาจไม่มีโอกาสอีกนาน จากนี้ไปเอเชียและอาเซียนจะเป็นศูนย์กลางใหม่ของโลก ต้องก้าวข้ามข้อจำกัดด้วยทักษะของคน นโยบายการเปลี่ยนผ่านคือการเปิดประเทศ พัฒนาเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับอนาคต ปฏิรูปกฎระเบียบและระบบราชการ เพิ่มโอกาสในการช่วงชิงการลงทุน เสริมจุดแข็งเดิม สร้างระบบนิเวศใหม่ สร้างบุคลากรรองรับห่วงโซ่ของอุตสาหกรรมใหม่ เช่น พลังงานสะอาด สตาร์ทอัพและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และเร่งขยายเขตการค้าเสรีเพื่อเปิดตลาดใหม่และลดการพึ่งพาตลาดเดิม
ศ. ดร. นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) แม้มีข้อจำกัดและความท้าทายหลายด้าน แต่ประเทศจะก้าวกระโดดได้ ต้องมีสัดส่วนการลงทุนวิจัยและพัฒนาต่อ GDP ร้อยละ 2-4 เพื่อให้มีแรงส่งเพียงพอ ขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 1.1 จึงต้องแน่ใจว่าจะจัดสรรงบประมาณอย่างถูกต้อง เกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพสูงสุด เป็นธรรม รัดกุมรอบคอบ ตรงเป้า การจัดงานครั้งนี้เพื่อให้ผู้บริหารในระบบ ววน. ภาครัฐและภาคเอกชนนำข้อมูลไปขับเคลื่อนในบริบทที่ดูแล สกสว. จะเสนอข้อมูลต่อสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อการขับเคลื่อนต่อไป
ศ. ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผอ. สกสว. กล่าวถึงการทำงานของ สกสว.ยุคใหม่ ว่าเข็มทิศกำลังแปรเปลี่ยนเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ด้วยการขับเคลื่อนและผลงานที่เกิดขึ้นจริง ได้แก่ การทบทวนแผนและจัดสรรงบประมาณด้าน ววน. งานวิจัยและนวัตกรรมตามเป้าหมายสำคัญทั้งด้านสุขภาพและการแพทย์ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม การขับเคลื่อนประเด็นร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สร้างความเข้มแข็งของหน่วยงานและบคุลากร การรับมือและการสื่อสารต่อประชาชนในภาวะวิกฤติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม การพัฒนาเครือข่ายและการร่วมทุนกับต่างประเทศ ภาคเอกชนและประชาสังคม การพัฒนาภายในองค์กร ในปี 2568 กองทุน ววน.ได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 19,251 ล้านบาท คิดเป็น 1.14% หวังว่าสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นในปีต่อ ๆ ไป เป้าหมายไม่ใช่แค่สำเร็จ แต่คือการเปลี่ยนแปลงประเทศ
งานDinner Talkกระตุก GDP ไทยด้วยกองทุน ววน.จัดขึ้นเพื่อนำเสนอผลการงานวิจัยจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ช่วยกระตุก GDP ไทย ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องเพื่อความยั่งยืน สร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจถึงความสำคัญของการวิจัยและนวัตกรรมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เร่งรัดผลักดันนโยบายและการดำเนินงานที่จะยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันทั้งในประเทศและในเวทีโลก
ข่าวอัพเดท

”ไทยรัฐ-มติชน-ข่าวสด-เดลินิวส์“คว้ารางวัลประกวดพาดหัวข่าวสร้างสรรค์ดีเด่น
วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

ชี้โอกาสไทยยังมีให้ลงทุนวิจัยนวัตกรรมที่คืนทุนไวใช้ได้จริง
วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

อว.-มท.เดินเครื่องรับมืออุทกภัยน้ำแล้ง
วันพุธ ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

สนท.มอบรางวัล “เกียรติยศคนหนังสือพิมพ์” เชิดชูเกียรติ “พงษ์ศักดิ์-สุทธิชัย-ซูม”
วันพุธ ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

มจธ. พัฒนาอะลูมิเนียมใหม่ทนร้อนสูงผสมScธาตุหายากเพื่ออุตสาหกรรม EV
วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
