สกสว.โชว์งานวิจัยทำรายได้สูงกว่างบที่จ่าย3.5เท่า-ลดยากจนได้จริง
วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568
การดู : 12
แชร์ :
สกสว.ควงภาคีวิจัย โชว์ผลงานเด่นของกองทุน ววน. สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สิงแวดล้อมเฉลี่ยสูงกว่างบที่ได้รับ 3.5 เท่า ปั้นสตาร์ทอัพกว่า 2,100 ราย ก้าวสู่ระดับโลกแล้ว 200 ราย สายแพทย์ สุขภาพมาแรง ผลิตภัณฑ์ทั้งเท้าเทียม รากฟันเทียม ถุงทวารเทียม ทั้งสร้างรายได้ ประหยัดรายจ่าย เพิ่มการเข้าถึงบริการตรวจเร็ว แม่นยำ

ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผอ.สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) แถลงผลงานกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) และความสำเร็จของแผน ววน. ของประเทศ พ.ศ. 2566-2570 ร่วมกับผู้บริหารหน่วยบริหารและจัดการทุน ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ กรุงเทพฯเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 โดยระบุว่า ตั้งแต่ปี 2563-2568 กองทุน ววน. ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 101,285.97 ล้านบาท ได้สร้างมูลค่าการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์จริง เกิดผลทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมเฉลี่ยสูงถึง 3.57 เท่า ดังตัวอย่างจากงบประมาณแผนงานขนาดใหญ่ 7 พันล้านบาท สร้างผลตอบแทนได้มากกว่า 25,000 ล้านบาท ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมมีการรับมือภัยพิบัติ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาสังคม สังคมสูงวัย การแก้ปัญหาความยากจนในพื้นที่

ศ.ดร.สมปอง กล่าวว่า เส้นทางความสำเร็จของแผน ประกอบด้วย 4 เสาหลัก ได้แก่ 1. เส้นทางอนาคตอาหารโลกด้วยนวัตกรรม มีผลเชิงเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท เกิดตลาดใหม่และผลิตภัณฑ์เขียว เพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรสูงถึงร้อยละ 80 ลดการนำเข้าและสร้างรายได้ในประเทศ เกิดผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ เปลี่ยนภาพลักษณ์ประเทศจากครัวไทยสู่ครัวโลก เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต โดย ววน. เป็นเครื่องมือสร้างอุตสาหกรรมใหม่อย่างเป็นรูปธรรม ปัจจุบันมีสตาร์ทอัพกว่า 2,100 ราย และก้าวสู่ระดับโลกแล้วประมาณ 200 ราย

อุตสาหกรรมในเสาที่ 1 ประกอบด้วยนวัตกรรรมอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารทางการแพทย์ อาหารพื้นถิ่นสู่สากล อาหารฮาลาล และผลไม้มูลค่าสูงที่มีมูลค่าการขายและส่งออกเพิ่มขึ้น เส้นทาง นวัตกรรมพลังงาน-ชีวภาพ พาประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ประกอบด้วยนวัตกรรมทางเลือกและการจัดการพลังงาน การสร้างมูลค่าการผลิตพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียนและพลังงานชีวภาพให้มีผู้ประกอบการในประเทศเพิ่มขึ้น และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เส้นทางประเทศไทยชนะอนาคตด้วย AI-EV-ธุรกิจนวัตกรรม ประกอบด้วยธุรกิจนวัตกรรม เช่น เครื่องสแกนใบหน้าสามมิติคุณภาพสูงเพื่อการสื่อสารระหว่างคนไข้กับแพทย์มีประสิทธิภาพ ชัดเจนและง่ายขึ้น SeaTrue CURRENT ปฏิวัติระบบการเลี้ยงกุ้งแบบแม่นยำบนปลายนิ้วสัมผัสด้วยการตรวจสอบแบบเรียลไทม์และการให้อาหารที่แม่นยำ การพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะและแบตเตอรี่แพ็ก ระบบระบายความร้อนมอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง เป็นต้น

เสาที่ 2 การแพทย์และระบบสุขภาพ เกิดผลเชิงเศรษฐกิจและสังคม ลดการนำเข้าอุปกรณ์และเวชภัณฑ์อย่างมีนัยสำคัญ สร้างรายได้ให้ประเทศและเอกชนหลายร้อยล้านบาท เช่น เท้าเทียมสร้างรายได้ให้เอกชนกว่า 8 ล้านบาท รากฟันเทียมและถุงทวารเทียมเข้า สปสช. ช่วยประหยัดเงินได้กว่า 125 ล้านบาท เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพที่ตรวจเร็ว แม่นยำ ลดภาระแพทย์ อาทิ ชุดตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ตับแบบเร็ว (OV Antigen Rapid Test Kit: OV-ATK) ใช้ได้จริงทั่วประเทศ ขยายผลสู่ สปสช. การให้บริการอ่านภาพถ่ายรังสีเอกซเรย์ทรวงอกด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI Chest X-ray) เพื่อคัดกรองโรคปอด ได้บรรจุเข้าชุดสิทธิประโยขน์ สปสช. ให้ใช้ในโรงพยาบาล 167 แห่ง สร้างรายได้ 55 ล้านบาท ส่วนผลกระทบเชิงระบบเปลี่ยนจากการพึ่งพาเป็น การพึ่งพาตนเอง

เส้นทางของเสาที่ 2 ประกอบด้วย นวัตกรรมการแพทย์เพื่อความแม่นยำ เช่น การวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด HXP-GPOVac ด้วยเทคโนโลยีไข่ไก่ฟัก วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV9v การผลักดันเครื่องมือแพทย์เข้าสู่บัญชีนวัตกรรมและสิทธิประโยชน์ สปสช. สารสกัดสมุนไพรพรมมิ มียอดขาย 150 ล้านบาท/ปี และขยายไปตลาดอาเซียน การยกระดับความมั่นคงทางสุขภาพไทยด้วยข้อมูลพันธุกรรมและการแพทย์แม่นยำ ทำให้เกิดเครือข่ายสถาบันวิจัยทางคลินิก 41 แห่ง ภายใต้ศูนย์ทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ ศูนย์บริการทดสอบทางการแพทย์จีโนมิกส์ ศูนย์ข้อมูลจีโนมแห่งชาติ และผู้ประกอบการธุรกิจเอกชน

เสาที่ 3 เส้นทางจากความยากจนสู่โอกาสใหม่ด้วยวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และพลังพื้นที่ (กลุ่มจังหวัดชายแดนใต้ กลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน) เช่น การพัฒนาแพลตฟอร์มคนจน ปักหมุดการเปลี่ยนแปลงด้วยข้อมูล เทคโนโลยี และชุมชน ส่งผลต่อเศรษฐกิจฐานราก รายได้ครัวเรือนยากจนเพิ่มขึ้นร้อยละ 15-20 เกิดอาชีพใหม่จากเกษตรมูลค่าเพิ่ม การแปรรูป และเศรษฐกิจชุมชน ลดต้นทุนและเพิ่มผลิตภาพด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ลดความเหลื่อมล้ำเชิงพื้นที่ ชุมชนเป็นเจ้าของการพัฒนา เชื่อมการแก้จนกับสิ่งแวดล้อม ภัยพิบัติและสังคมสูงวัย และใช้วิทยาศาสตร์สนับสนุนนโยบายสิ่งแวดล้อม

เสาที่ 4 เส้นทางเทคโนโลยีขั้นแนวหน้าสู่การแก้ปัญหาระดับโลก เช่น การวิเคราะห์ชนิดทางเคมี ประเมินระดับความเป็นพิษของสารหนู การออกแบบกลไกการแก้ไขปัญหา การใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์สนับสนุนกรรมาธิการ กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาสารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำอย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงจากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ สร้างความร่วมมือกับจีนและเกาหลีใต้เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ สร้างมาตรฐาน แลกเปลี่ยนกำลังคน ยกระดับสถาบันสู่ศูนย์กลางการให้บริการวิจัยขั้นแนวหน้า การวิจัยด้านวัสดุขั้นสูงด้วยเทคนิค In-situ/operando ระดับอะตอม เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ด้านพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม
การพัฒนาบุคลากรวิจัยและนวัตกรรม เส้นทางอาชีพ มีบุคลากรทักษะสูงจากศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญและศูนย์กลางความรู้กว่า 300 คน มีเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างชาติกว่า 600 คน บุคลากรที่ร่วมภาคีเครือข่ายชั้นนำของโลก 51 คน มีการพัฒนากำลังคนสำหรับอุตสาหกรรมอนาคต การเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น การใช้ฐานข้อมูลด้านภูมิสารสนเทศปัญญาประดิษฐ์แก่นักศึกษาและนักวิจัยในพื้นที่ เปลี่ยนพื้นที่ประสบภัยให้เป็นห้องเรียนเสมือนจริง การใช้เทคโนโลยีเก็บข้อมูลเชิงลึก เพื่อย้อนตรวจสอบสภาพเมืองหลังน้ำลดและประเมินความเสียหายเชิงโครงสร้างอย่างเป็นระบบ การต่อยอดศูนย์ข้อมูลกลางภูมิสารสนเทศเพื่อบริหารจัดการน้ำท่วมหาดใหญ่ เป็นต้น
ผลเชิงเศรษฐกิจ ได้แก่ การเพิ่มผลิตภาพแรงงาน ลดต้นทุนการผลิตและการว่างงาน เพิ่มทักษะแรงงานขั้นสูง เกิดสตาร์ทอัพเชิงเทคโนโลยี ประเทศไทยขยับจากผู้ใช้เทคโนโลยีเป็นผู้คิดค้นและออกแบบ ขณะที่ผลกระทบเชิงระบบทำให้งานวิจัยขั้นแนวหน้าและโครงสร้างพื้นฐานถูกใช้แก้ปัญหาจริงของประเทศ และมีนโยบายสาธารณะที่ตั้งอยู่บนฐานข้อมูลวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้

ในโอกาสนี้ สกสว. ได้เปิดตัวหน่วยบริหารและจัดการทุน (PMUด้านความมั่นคงประเทศ โดย พล.ท.คม วิริยเวชกุล เจ้ากรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม เปิดเผยว่าสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ อนุมัติจัดตั้งกรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม (วท.กห.) สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมประเภทที่ (2) หน่วยงานด้านการให้ทุน มีเป้าหมายให้โจทย์วิจัยด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศตรงกับความต้องการของกองทัพผู้ใช้งานจริง โดยบูรณาการงานวิจัยด้านความมั่นคงให้มีทิศทางและเป็นเอกภาพ ลดความซ้ำซ้อน มีการบริหารจัดการแบบครบวงจร วางเป้าหมายลดการพึ่งพาการนำเข้าเทคโนโลยีและยุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ .
#กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม #นวัตกรรรมอาหารเพื่อสุขภาพ
ข่าวอัพเดท
สกสว.โชว์งานวิจัยทำรายได้สูงกว่างบที่จ่าย3.5เท่า-ลดยากจนได้จริง
วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568
รณรงค์ไทยในเกาหลีใต้เลือก ส.ส.ในต่างประเทศ
วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ผู้ว่าฯททท.ยืนยันเชื่อมั่นเที่ยวได้ตามปกติ
วันอาทิตย์ ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2568
AnthoRiceนวัตกรรม’จุฬา-มหิดล’บำรุงรากผมจากข้าวไรซ์เบอร์รี่
วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ข่าวดี! เต่าทะเลขับถ่ายสายรัดข้อมือนักท่องเที่ยวที่กลืนได้แล้ว
วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ภาพดาวหาง 3I/ATLAS ใกล้โลกที่สุด 19 ธ.ค. 68ที่ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่
วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568