ยกคุณภาพอัปราคากาแฟอนุรักษ์ป่าลุ่มแม่กวง
วันเสาร์ ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2568
การดู : 11

แชร์ :
ทีมวิจัย ม.ราชมงคลล้านนา ลงแก้ปัญหาการผลิตกาแฟ ย่านลุ่มน้ำแม่กวง พื้นที่ เชียงใหม่ เชียงราย ที่ปริมาณและคุณภาพด้อยลง นำองค์ความรู้เทคโนโลยีไปถ่ายทอด พัฒนานวัตกรชุมชน ที่เข้าใจกระบวนการผลิตที่ถูกต้อง ชิมและประเมินรสชาติได้ เกิดมูลค่าเพิ่ม5-6เท่าตัว ทั้งช่วยการอนุรักษ์ป่าอย่างยั่งยืน ลดฝุ่นPM2.5ได้ด้วย
จากการที่บริเวณลุ่มน้ำแม่กวงครอบคลุม อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงรายและ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ มีปัญหาปริมาณและคุณภาพผลผลิตกาแฟลดลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน และข้อจำกัดด้านความรู้ เทคโนโลยีของเกษตรกร นายสุริยนต์ สูงคำ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (มทร.ล้านนา) คณะวิจัยโครงการนวัตกรรมการพัฒนาและยกระดับมูลค่ากาแฟพืชเศรษฐกิจหลักของชุมชนเกษตรกรรมเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กวง จังหวัดเชียงใหม่-เชียงราย โดยการสนับสนุนของหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) นำเทคโนโลยีพร้อมใช้และองค์ความรู้ที่เหมาะสมผนวกกับภูมิปัญญาท้องถิ่นมาถ่ายทอดให้กับชุมชน เพื่อแก้ไขปัญหาการผลิต ยกระดับห่วงโซ่กาแฟคุณภาพ พร้อมกับการอนุรักษ์ป่าอย่างยั่งยืน ด้วยกระบวนการ Learning and Innovation Platform (LIP)
คณะวิจัยนอกจากสนับสนุนทางวิชาการ ยังประสานความร่วมมือกับชุมชนในฐานะภาคีเครือข่ายด้วยวิทยาศาสตร์อย่างง่าย และ เทคโนโลยีพร้อมใช้ชุดข้อมูล (Data-Driven Learning) ช่วยให้เกษตรกรเข้าใจการทำเกษตรอย่างมีหลักการ ใช้ข้อมูลเป็นเครื่องมือ วิเคราะห์รวบรวมข้อมูล นำเสนอผลเป็นรายแปลง อาทิ การวิเคราะห์ค่าดินด้วยชุดสีที่เข้าใจง่าย (สีแดง: ระดับอันตราย) ให้เกษตรกรเรียนรู้ ลงมือปฏิบัติพร้อมกับคณะวิจัยในแปลงทดลอง ให้เกษตรกรวิเคราะห์ ติดตามผล นำไป รับ-ปรับ-ใช้ เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของกระบวนการเรียนรู้ ภูมิใจในผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นร่วมกัน มีการทบทวนประเมินผลหลังปฏิบัติงาน ร่วมกับชุมชนอย่างสม่ำเสมอ และปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างทันท่วงที
ทีมวิจัยได้พัฒนานวัตกรชุมชนเป็นตัวกลางถ่ายทอด ขยายผลเทคโนโลยีด้วยตัวเอง ด้วยการคัดเลือก พัฒนานวัตกร จากการลงพื้นที่ ประเมินศักยภาพ ความพร้อมของเกษตรกร โดยใช้ประสบการณ์การทำกาแฟ ความสามารถการชิมและประเมินรสชาติกาแฟของตนเอง พิจารณาความพร้อมการรับ-ปรับ-ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ
นายภูเมธ ภูมิธันเมธ เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟบ้านห้วยน้ำกืน ซึ่งใช้พื้นที่ปลูกกาแฟส่วนตัวเป็นศูนย์เรียนรู้ที่มีชีวิต หรือพื้นที่ต้นแบบติดตั้งเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการผลิตกาแฟคุณภาพครบวงจร ได้รับมอบหมายเป็นนวัตกรระดับสี่ และเป็นนายสถานี ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านกาแฟให้กับเกษตรกรรายอื่น ทั้งการเลือกสายพันธุ์ที่ตลาดต้องการ การเตรียมแปลงปลูก การให้คำแนะนำการจัดการโรคและแมลง มีทักษะการชิม ประเมินรสชาติกาแฟ (Cupping Test) ระดับQ-Grader ให้ข้อเสนอแนะจุดเด่น ข้อบกพร่องของกาแฟที่ชิมได้แม่นยำ วิเคราะห์ย้อนกลับไปถึงการดูแลแปลงและการแปรรูป
คณะวิจัย ระบุถึงการแก้ปัญหา โดยยกระดับคุณภาพกาแฟท้องถิ่นให้เป็นกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ นำเทคโนโลยีที่เรียบง่ายหนุนเสริมฐานทุนความรู้เดิมของชุมชน แก้ไขจุดด้อยได้ตรงจุดและทันท่วงที การมีส่วนร่วมของเกษตรกรในการทำแปลงสาธิต โดยจัดการจัดการดินและน้ำเฉพาะที่ ช่วยลดต้นทุนจากการใส่ปุ๋ยที่ไม่จำเป็น ทำให้ต้นกาแฟแข็งแรงทนต่อโรค ได้อนุรักษ์ดินและน้ำในแปลง เก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟผลสุกเต็มที่ ด้วยอุปกรณ์เทียบสีให้เกษตรและแรงงานนอกพื้นที่ทำงานง่ายขึ้น มีกระบวนการแปรรูปและทดสอบรสชาติกาแฟ ใช้เทคโนโลยีติดตามสภาพอากาศ เพื่อแจ้งเตือนให้เตรียมป้องกันการระบาดของโรค แมลงอย่างถูกต้องทันสถานการณ์ มีเทคโนโลยีติดตามสภาพอากาศโรงตากกาแฟ ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้น พร้อม ระบบแจ้งเตือน เพื่อแก้ปัญหาเชื้อรา รักษาคุณภาพและสีสันของสารกาแฟ (Green Bean) ให้สวยงาม ทำระบบบัญชีอย่างง่าย ให้เกษตรกรได้เห็นต้นทุนการผลิตที่แท้จริง มีกระบวนการนำเสนออัตลักษณ์กาแฟ พัฒนาแบรนด์และบรรจุภัณฑ์
การดำเนินการ ส่งผลให้เกิดมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของกาแฟตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต จากเดิมที่ขายเชอร์รี่กาแฟได้ กก.ละ 25 บาท เมื่อแปรรูปเป็นสารกาแฟจะขายได้ กก.ละ 500 บาท (เพิ่มขึ้นจากต้นทุน 5-6 เท่า) เมื่อทำกาแฟคั่วและสร้างแบรนด์ของตนเอง ราคาก็ขึ้นไปถึงกก.ละ 2,000 บาท
“ความผูกพันของภาคีเครือข่ายลุ่มน้ำแม่กวงเป็นรากฐานสำคัญของการทำงานแม้โครงการวิจัยจะสิ้นสุดลง แต่การขับเคลื่อนในพื้นที่ยังมีอยู่ตลอด ด้วยสายสัมพันธ์ของผู้คนที่มีเป้าหมายและองค์ความรู้ที่หยั่งรากลึกลงในชุมชน” นายสุริยนต์ หัวหน้าโครงการฯ กล่าว
ผศ.วิสูตร อาสนวิจิตร หัวหน้าโครงการย่อยที่ 1 กล่าว่าภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็งทำให้เกิดผลลัพธ์ประจักษ์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อขยายผล ให้ชุมชนรับรู้ว่าการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพคือกลไกที่สำคัญที่สุดในการสร้างมูลค่าเพิ่ม หลายหน่วยงานในภาคเหนือ ก็สนใจมาศึกษาเทคโนโลยี ร่วมมือกับยุวชนอาสาในการปลูกกาแฟขั้นบันได โดยเฉพาะจังหวัดเชียงรายที่มีนโยบายส่งเสริมการปลูกกาแฟอย่างชัดเจนเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และผลักดันไร่กาแฟของนายภูเมธเป็นแหล่งนำร่องด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
พื้นที่ลุ่มน้ำแม่กวง เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่ มีอาณาเขตครอบคลุมตำบลแม่เจดีย์ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ตำบลเทพเสด็จ ตำบลป่าเมี่ยง ตำบลเชิงดอย ตำบลลวงเหนือ ตำบลสง่าบ้าน อำเภอดอยสะเก็ด และตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นแหล่งปลูกกาแฟอราบิก้าของประเทศไทย
#หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) #ยกระดับห่วงโซ่กาแฟคุณภาพ
ข่าวอัพเดท

ยกคุณภาพอัปราคากาแฟอนุรักษ์ป่าลุ่มแม่กวง
วันเสาร์ ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2568

โพธิคยาฯร่วมจัดสัมมนาสิทธิมนุษยชน-ศรัทธา-ธรรมะ
วันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568

รัฐบาลคุมเข้มโฆษณา-ขาย ”พืชกระท่อม“
วันพฤหัส ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ปั้น 9 ร้านต้นแบบเชฟชุมชนอาหารถิ่น
วันพฤหัส ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568

P-markรับรองอุตสาหกรรมหุ่นยนต์- IoTสู่ตลาดนวัตกรรมอาเซียน
วันพฤหัส ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ช่างภาพไทยชนะเลิศ “การประกวดภาพข่าวอาเซียน 2025”
วันพุธ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2568
