ชายแดนใต้เผชิญฝนหนักน้ำท่วมแล้ว

วันพุธ ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

การดู : 89

ชายแดนใต้เผชิญฝนหนักน้ำท่วมแล้ว

แชร์ :

อุตุฯประกาศล่าสุด ฝนหนักมากภาคใต้ 13 จังหวัด อาจน้ำท่วมฉับพลัน นำป่าหลาก ล้นตลิ่ง ชลประทานรายงานสงขลาตกวันเดียวกว่า 400 มม. ปัตตานี 500 มม. หลายพื้นที่ท่วม ระดมกระสอบทรายป้องกันโรงพยาบาล

ภาพเรดาร์แสดงฝนตกพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง

กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 พย 67 เรื่อง ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ คลื่นลมแรงในอ่าวไทยตอนล่างและอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 (312/2567) มีผลกระทบวันที่ 27-30 พย. 67) ความว่า ภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ บริเวณจ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวม 13 จังหวัด ให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

หน่วยกู้ภัยช่วยเหลือผู้ประสบภัย จ.ปัตตานี

ทั้งนี้เป็นผลจากมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ มีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้กำลังค่อนข้างแรง กับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศมาเลเซียจะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมาก

             บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศเย็นถึงหนาว มีลมแรง ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3–5 องศาเซลเซียส ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากอากาศแห้งและลมแรง

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำภาคใต้ วันที่ 27 พ.ย. 67 มีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะจ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่งผลให้น้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำและน้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่

จ.สงขลา ฝนตกหนักในพื้นที่ ปริมาณสะสมสูงสุด 24 ชม. ที่สถานี อ.เทพา วัดได้ 429.0 มม. ทำให้มีน้ำล้นตลิ่ง ที่ อ.สะเดา ท่วมขัง อ.เมืองสงขลา อ.หาดใหญ่ อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย อ.ระโนด และอ.กระแสสินธุ์

จ.ปัตตานี ฝนตกหนักในพื้นที่ ฝนสะสมสูงสุด 24 ชม. ที่สถานี อ.โคกโพธิ์ วัดได้ 522.4 มม. สถานี อ.ยะรัง 508.2 มม.และ สถานี อ.หนองจิก 78.2 มม. โครงการชลประทานปัตตานี สำนักงานชลประทานที่ 17 ประกาศแจ้งเตือนแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี สนับสนุนกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำไหลทะลักเข้าท่วม โรงพยาบาลหนองจิก โรงพยาบาลโคกโพธิ์ โรงพยาบาลยะหริ่ง ตลอดจนใช้เครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่

จ.ยะลา มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. เกิดน้ำป่าไหลหลาก ที่ อ.ยะหา น้ำล้นตลิ่ง ที่ อ.รามัน น้ำท่วมขังที่ อ.เมืองยะลา โครงการชลประทานยะลา สำนักงานชลประทานที่ 17 แจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามสถานการณ์ เขื่อนบางลาง ปิดการระบายน้ำ เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย

จ.นราธิวาส ฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ วันที่ 24 - 26 พ.ย. 67 ทำให้น้ำล้นตลิ่งในคลองศูนย์ราชการ น้ำท่วมขัง อ.เมืองนราธิวาส อ.บาเจาะ อ.ยี่งอ อ.รือเสาะ อ.แว้ง อ.ระแงะ อ.เจาะไอร้อง และ อ.สุไหงปาดี

จ.นครศรีธรรมราช ฝนตกหนักสะสมต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. ส่งผลให้คลองท่าดี อ.เมืองนครศรีธรรมราช คลองกลอง อ.ร่อนพิบูลย์ คลองเสาธง อ.พระพรหม ล้นตลิ่ง

จ.พัทลุง ฝนสะสมสูงสุด 24 ชม. ที่สถานี อ.ปากพะยูน วัดได้ 119.0 มม. ทำให้มีน้ำท่วมขัง อ.ควนขนุน

กรมชลประทาน แจ้งให้โครงการชลประทานในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสม เกิดน้ำท่วมเป็นประจำ ปรับแผนบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

สภาพน้ำท่วมอ.ยะหา จ.ยะลา(ภาพกรมอุตุนิยมวิทยา

 

          คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน)แจ้งพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล่วงหน้า 72 ชั่วโมง (วันที่ 27 พย.67) ภาคใต้  8จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล สุราษฎร์ธานี

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม(ศปช.) เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับทราบสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ได้สั่งการให้ ศปช. ทำตามแผน ที่วางกำลังไว้ พร้อมรับมือต่อสถานการณ์ที่ ศปช.รายงานว่าจะมีฝนตกหนัก ให้เร่งฟื้นฟูพร้อมทั้งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อรัฐบาลจะแก้ไขเยียวยาได้ทันท่วงที โดยเฉพาะเรื่องเส้นทางการสัญจรต่าง ๆ ใน จ.นราธิวาส ยะลา ปัตตานี และ 2 อำเภอ ในจ.สงขลา ทั้งเขตตัวเมืองและอำเภอต่างๆ ที่มีน้ำท่วม ดินสไลด์ และเสาไฟฟ้าหักโค่น ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่รวมถึงกำลังพลที่เข้าร่วมปฎิบัติภารกิจช่วยเหลือและดูแลประชาชนอย่างเต็มกำลัง เพราะสิ่งสำคัญสูงสุดคือความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง