อว.ตั้งวอร์รูมรับน้ำท่วมภัยวิภา

“สุดาวรรณ” สั่งทุกหน่วยอว.เร่งช่วยประชาชนจากพายุ“วิภา” ให้ สสน. – GISTDA ตั้งวอร์รูมเตือนภัย 24 ชั่วโมง ย้ำต้องแม่น เปิดมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์พักพิง 

เมื่อวันที่ 23 ก.ค.น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานของกระทรวง อว.เตรียมความพร้อมและช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน ให้สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(สสน.) และ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ยกระดับ

เป็นศูนย์บัญชาการและวิเคราะห์สถานการณ์ (War Room) ตลอด 24 ชั่วโมง ใช้ระบบคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ เทคโนโลยีโทรมาตรอัตโนมัติ และข้อมูลจากดาวเทียม วิเคราะห์ คาดการณ์ ชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงให้มีความแม่นยำ รวดเร็วที่สุด พร้อมรายงานสถานการณ์ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กรมชลประทาน ศูนย์บัญชาการของทางจังหวัด รวมทั้ง เครือข่าย อว. ส่วนหน้า ซึ่งเป็นหน่วยบัญชาการเชิงพื้นที่ เพื่อเตือนภัย วางแผนอพยพ การระบายน้ำและให้ความช่วยเหลือภาคพื้นดิน เป็นไปอย่างเอกภาพและมีประสิทธิภาพสูงสุด

“หัวใจสำคัญ ต้องชี้เป้าแม่นยำ ส่งข้อมูลทันท่วงที เตรียมพร้อมทุกพื้นที่  สื่อสารทั่วถึง ระดมเทคโนโลยีเข้าช่วย กระทรวง อว.พร้อมจะนำเทคโนโลยี นวัตกรรมไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน เพราะสถานการณ์น้ำท่วม ถือว่าหนักหนาสาหัส”

น.ส.สุดาวรรณ กล่าวอีกว่า กรณีเกิดภัยพิบัติให้ระดมเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย เช่น โดรนสำรวจและลำเลียงสิ่งของไปมอบผู้ประสบภัยในพื้นที่เข้าถึงยาก เรือไวไฟ (WiFi) ให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ บ้านสำเร็จรูป ที่นอนยางพารา เครื่องกรองน้ำไส้กรองนาโนแบบเคลื่อนที่ ถุงยังชีพที่มีอาหารนวัตกรรมพร้อมทานโดยไม่ต้องอุ่น ยาและของใช้ที่จำเป็นไป

รมว.กระทรวง อว.กล่าวอีกว่าในนามของรัฐบาล มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยให้เครือข่ายมหาวิทยาลัยในพื้นที่เสี่ยงภัยทั่วประเทศ สนับสนุนจังหวัดและชุมชน เตรียมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ อาสาสมัคร และใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวหรือศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือ หากได้รับการร้องขอ ให้สำนักงานปลัดกระทรวง อว.และ สสน.ร่วมกับทุกหน่วยงานในกระทรวง อว.เผยแพร่ข้อมูลรายงานสถานการณ์น้ำประจำวัน เผยแพร่ในช่องทางการสื่อสารต่างๆ ให้ประชาชนรับทราบ ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เข้าถึงได้ทุกวัย เชื่อถือได้ เช่น เว็บไซต์ www.thaiwater.net แอปพลิเคชัน ThaiWater  กลุ่มไลน์เครือข่าย อว.ในพื้นที่ทุกจังหวัด เครือข่ายชุมชนของ สสน. ทั่วทุกภูมิภาค

ดร.รอยบุญ รัศมีเทศ ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(สสน.) กล่าวว่า ช่วงวันที่ 23 - 24 ก.ค. จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมกระโชกแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนสูง 2–3 เมตร อาจมากกว่า 3 เมตรในบางจุด ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง ประเทศไทยมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางกระจายตัวทั่วทุกภูมิภาค มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณจังหวัดน่าน 90 มิลลิเมตร เชียงใหม่ 85 มิลลิเมตร พิษณุโลก 75 มิลลิเมตร นครพนม 72 มิลลิเมตร เชียงราย 66 มิลลิเมตร ระนอง 62 มิลลิเมตร ตาก 61 มิลลิเมตร พิจิตร 53 มิลลิเมตร พะเยา 50 มิลลิเมตร บึงกาฬ 43 มิลลิเมตร ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลัก มีน้ำล้นตลิ่งบริเวณแม่น้ำอิง จ.พะเยา ห้วยหลวง จ.อุดรธานี ลำน้ำอูน จ.สกลนคร และลำน้ำก่ำ จ.นครพนม โดยพายุโซนร้อนวิภา มีแนวโน้มอ่อนกำลังลง จากนั้นจะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย

ผอ.สสน.กล่าวอีกว่าวันที่ 25 - 28 ก.ค.ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย มีกำลังแรง ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้ในบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนบนและภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนต่อเนื่องและอาจมีฝนตกหนักได้ในบางแห่ง โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตก

#น้ำท่วม    #วิภา   #GISTDA    #War Room