ชู 2 นักวิจัยสตรีไทยผลงานวัคซีนอหิวาต์หมู-นาโนนำส่งยารักษาตรงจุด
วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
การดู : 18
แชร์ :
2 นักวิจัยหญิง สวทช. ดร. สพ.ญ.ฌัลลิกา แก้วบริสุทธิ์ เจ้าของงานวิจัยต้นแบบวัคซีนโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร และ ดร.มัตถกา คงขาว พัฒนาอนุภาคนาโนไขมันดัดแปลงพื้นผิวเพื่อนำส่งยารักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง คว้ารางวัลเชิดชูเกียรตินักวิจัยสตรีไทย โครงการเพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์ ประจำปี 2568 ของลอรีอัล กรุ๊ป
ดร. สพ.ญ.ฌัลลิกา(ข)ดร.มัตถกา.jpg)
ข่าวจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยชื่อนักวิจัยที่ได้รับรางวัลรางวัลเชิดชูเกียรตินักวิจัยสตรีไทย โครงการเพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์ ประจำปี 2568 รายแรก ดร. สพ.ญ.ฌัลลิกา แก้วบริสุทธิ์ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรตินักวิจัยสตรีไทยและทุนสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ จากการวิจัยและพัฒนาวัคซีนสำหรับ โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือ African Swine Fever (ASF) โดยดร. สพ.ญ.ฌัลลิกา กล่าวว่า โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรเป็นโรคอุบัติใหม่ ประเทศไทยยังไม่มีองค์ความรู้ เทคโนโลยีพื้นฐาน และการพัฒนาวัคซีน มาตรการที่ใช้ควบคุมการระบาดของโรค ASF ที่ผ่านมาทำได้เพียงสร้างระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ หรือ Biosecurity เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่เข้าหรือออกจากฟาร์ม แต่ด้วยต้นทุนการจัดการฟาร์มที่มีมูลค่าสูง ยากที่ฟาร์มสุกรขนาดเล็กและกลางจะลงทุน จึงเป็นโจทย์เร่งด่วนที่ ดร. สพญ.ฌัลลิกา และทีมวิจัยเริ่มพัฒนาวัคซีนต้นแบบป้องกันโรค ASF ตามแผนพัฒนาวัคซีนสัตว์

ดร. สพ.ญ.ฌัลลิกา กล่าวว่า การศึกษาเบื้องต้นชี้ว่า วัคซีนต้นแบบชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์มีประสิทธิผลสูง ป้องกันโรค ASF ได้ถึง 70–100% มีความปลอดภัย แม้ใช้โดสสูงก็ไม่เกิดโรครุนแรง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณาร่วมกับกรมปศุสัตว์และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการทดสอบในระดับฟาร์ม โดยเริ่มในฟาร์มขนาดเล็กก่อน หากสำเร็จจะเป็นความหวังในการพัฒนาวัคซีนต่อสู้กับโรคระบาดในสุกร ช่วยฟื้นฟูฟาร์มสุกรขนาดเล็กและกลางกลับมาทำอาชีพได้อีกครั้ง

“การได้รางวัลเชิดชูเกียรตินักวิจัยสตรีไทยครั้งนี้ ดีใจและภูมิใจที่แม้งานวิจัยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีคนมองเห็นคุณค่า ทำให้หายเหนื่อย เป็นกำลังใจให้ทีมวิจัยก้าวต่อไปในโจทย์ที่ยากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำงานวิจัยแก้ปัญหาแก่เกษตรกรไทยได้จริง” ดร.สพ.ญ.ฌัลลิกา กล่าว

อีกรางวัล เป็นรางวัลเชิดชูเกียรตินักวิจัยสตรีไทย และทุนสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของ ดร.มัตถกา คงขาว ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สวทช. โดยผู้ได้รับกล่าวว่าการรักษาโรคในกลุ่ม NCDs แบบเดิมมีข้อจำกัดมาก เช่น ยาดูดซึมได้ไม่ดี มีการกระจายไปทั่วร่างกายแบบไม่จำเพาะ ทำให้เกิดผลข้างเคียง ที่ไม่พึงประสงค์ ตัวยาสำคัญเกิดการสลายตัวในทางเดินอาหาร ส่งผลให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่ดีหรือไม่จำเพาะเจาะจง นอกจากนี้ตัวยาหรือสารออกฤทธิ์บางตัวที่ไวต่อสภาพแวดล้อม เช่น เพปไทด์หรือสารสมุนไพร มักเสื่อมสลายง่าย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ประสิทธิภาพการรักษาลดลง ที่สำคัญผู้ป่วยบางรายมีโรคร่วมหลายอย่าง ทำให้ต้องรับประทานยาจำนวนมาก

“การนำเทคโนโลยีนาโนมาใช้พัฒนาระบบนำส่งยาสู่เป้าหมายอย่างเฉพาะเจาะจง คือหนทางควบคุมการปลดปล่อยยาได้ตรงจุด เพิ่มเสถียรภาพของยา และช่วยให้ยาออกฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ ทีมวิจัยนาโนเทคทำงานอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปีในการพัฒนาอนุภาคนาโนไขมันกักเก็บยาและสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม (API)” โดยดัดแปลงพื้นผิวของอนุภาคนาโนไขมันให้มีลักษณะที่จำเพาะเจาะจงกับโรคนั้น ๆ เช่น การเพิ่มอนุภาคที่เป็นตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ การเพิ่มตัวจับเฉพาะกับเซลล์เป้าหมาย การปรับประจุพื้นผิวให้เกาะกับเนื้อเยื่อดีขึ้นเพื่อให้ดูดซึมผ่านระบบทางเดินอาหารได้ดี

อนุภาคนาโนไขมันที่ออกแบบมีความจำเพาะกับกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคทางระบบประสาทเสื่อม มะเร็ง การอักเสบเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน ไขมันช่องท้องและในเลือด รวมถึงความชราของผิวหนัง และอื่น ๆ
“ตัวอย่างผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องให้ยาคีโมซึ่งปัจจุบันยาคีโมมีกลไกการออกฤทธิ์เพื่อยับยั้งเซลล์ที่แบ่งตัวผิดปกติอย่างไม่จำเพาะเจาะจง ทำให้ยาคีโมไปทำลายเซลล์รากผมหรือเยื่อบุลำไส้ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการผมร่วงหรืออาเจียน หากใช้อนุภาคนาโนไขมันนำส่งยาไปยังเซลล์มะเร็งได้อย่างจำเพาะเจาะจง จะช่วยลดผลข้างเคียงและคุณภาพชีวิตผู้ป่วยก็ดีขึ้น กรณีผู้ป่วยสูงอายุกลุ่มโรค NCDs ที่มักมีโรคร่วม เช่น เบาหวาน ความดัน ไตวายเรื้อรัง ต้องรับประทานยาปริมาณมาก แต่ยาเหล่านั้นอาจออกฤทธิ์แค่ 10-20% การใช้อนุภาคนาโนไขมันเข้าไปช่วยเพิ่มการดูดซึมผ่านระบบทางเดินอาหาร จะทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น สามารถลดปริมาณยาและลดการได้รับผลข้างเคียงจากยา ช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น”
ขณะนี้เทคโนโลยีผ่านการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระดับ Pre-Clinic ในสัตว์ทดลองเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างต่อยอดการทดสอบทางคลินิกในกลุ่มอาสาสมัครสุขภาพดีร่วมกับพันธมิตรและเครือข่าย ทั้งคณะเภสัชศาสตร์ แพทยศาสตร์ โรงเรียนแพทย์ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หากได้ผลดีจะมีการทดสอบในอาสาสมัครที่มีแนวโน้มเป็นโรคในกลุ่ม NCDs และผู้ป่วยที่เป็นโรคในกลุ่ม NCDs ต่อไป โดยทีมวิจัยคาดว่าจะผลักดันเทคโนโลยีนี้ไปใช้ได้จริงในเชิงพาณิชย์ได้ภายในระยะเวลา 3-5 ปี

“การออกแบบการรักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังแบบมุ่งเป้าด้วยเทคโนโลยีการกักเก็บยาหรือสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรมในอนุภาคนาโนไขมันที่ดัดแปลงพื้นผิวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา บรรเทาอาการเจ็บปวด ลดผลข้างเคียงของยา และช่วยเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น หากประเทศพัฒนานวัตกรรมได้เอง จะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศมากขึ้น”
นวัตกรรมอนุภาคนาโนที่ ดร.มัตถกา พัฒนาขึ้น นอกจากใช้เพื่อการรักษา ยังมีแผนนำไปใช้ในเชิงเวชศาสตร์ป้องกันการชะลอและป้องกันการเกิดโรค NCDs รวมถึงประยุกต์ใช้ในการกักเก็บสารสกัดหรือสารออกฤทธิ์ (Active Ingredients) สำหรับผลิตภัณฑ์เวชสำอางและอาหารเสริมชะลอวัย
“อนุภาคนาโนไขมันที่พัฒนาขึ้น ยังใช้กักเก็บสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ (Bioactive) จากสมุนไพรไทยที่มีฤทธิ์ป้องกันหรือชะลอการเกิดโรค รวมถึงกักเก็บสารสกัดสำหรับผลิตภัณฑ์เวชสำอางและอาหารเสริมชะลอวัย ที่ผ่านมาได้นำไปใช้กักเก็บสารสกัดกระชายดำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สารสกัดกระชายดำในเชิงเวชสำอางและถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ผู้ประกอบการเพื่อผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นตัวอย่างความสำเร็จของผลงานวิจัยภายใต้แพลตฟอร์มสร้างนวัตกรรมสารออกฤทธิ์จากสมุนไพรไทยเพื่อความงาม สุขภาพ และอายุยืนยาว (PhytoEX) “
ดร.มัตถกา กล่าวว่า การได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติครั้งนี้ ภูมิใจและปลาบปลื้มใจอย่างยิ่ง เพราะมีคุณค่าสูงสุดสำหรับนักวิจัยหญิง ดีใจที่คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเห็นคุณค่าในผลงานวิจัย เนื่องจากรางวัลนี้มีการพิจารณาจากผลงานที่ตอบโจทย์หรือสร้างคุณค่าให้กับสังคมได้จริง การได้รางวัลจึงเป็นสิ่งที่ยืนยันหรือสะท้อนให้เห็นว่า งานวิจัยและแผนกลยุทธ์ที่ สวทช. ผลักดันนั้นมาถูกทาง และสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติได้จริง.
#รางวัลเชิดชูเกียรตินักวิจัยสตรีไทย
ข่าวอัพเดท
ชู 2 นักวิจัยสตรีไทยผลงานวัคซีนอหิวาต์หมู-นาโนนำส่งยารักษาตรงจุด
วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
มทร.ธัญบุรี เปิดศึกธัญบุรีเกมส์
วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เปิดThailand Open Science for ALLส่งงานวิจัยถึงมือคนไทย
วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
“สมเด็จพระสังฆราช”ประทานโอวาทแก่ผู้ร่วมโครงการบรรพขา-อุปสมบทแดนพุทธภูมิ
วันศุกร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
Rock Winter 90s ไฟร็อกกลางลมหนาวที่ภูน้ำผึ้ง หัวหิน
วันพฤหัส ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เปิด SATLAB - FASHION EXPERIMENT ปั้นปี1สู่แฟชั่นดีไซเนอร์รุ่นใหม่
วันพฤหัส ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568