โพธิคยาฯร่วมจัดสัมมนาสิทธิมนุษยชน-ศรัทธา-ธรรมะ

สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ร่วมกับ สถาบันโพธิคยาวิชาลัย 980 (Bodhigaya Vijjalaya 980 Institute – BGVI) พร้อมด้วย Dharma Alliance ณ กรุงเจนีวา วัดบวรนิเวศวิหาร สนับสนุนจากมูลนิธิวีระภุชงค์ จัดการประชุม “สิทธิมนุษยชน ศรัทธา และธรรมะ : ผสานความเชื่อมั่นภายในสู่การปฏิบัติที่เป็นธรรม” ภายใต้กรอบแนวคิด “Faith for Rights”ครั้งที่6 ของสหประชาชาติและสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน โดยการประชุมเริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 13-15 ตุลาคม 2568 ณ โรงแรมโซฟิเทล อังกอร์ เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ดำเนินต่อมาถึงวันที่ 16-17 ตุลาคม 2568 จัดการประชุม ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร และ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ(UNCC) กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

การจัดการประชุมระดับนานาชาติ มีผู้แทนจากศาสนาและความเชื่อต่างๆเข้าร่วมกว่า 10 ประเทศ โดยมีสถาบันโพธิคยาวิชาลัย 980 (BGVI) ในนามประเทศไทยเป็นประธานร่วม เพื่อส่งเสริมการเสวนาระดับโลกด้วยความสัมพันธ์ระหว่าง ศรัทธา สิทธิมนุษยชน และการสร้างสันติภาพ ผ่านมุมมองหลักธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น

ดร.สุภชัย วีระพุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชาลัย 980 กล่าวในที่ประชุมว่า “การมาพบกันเพียงเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่เพื่อร่วมกันวางเส้นทางสู่อนาคตร่วม ที่เชื่อมโยงสิทธิมนุษยชนเข้ากับพลังภายในแห่งศรัทธา และแสงแห่งธรรมที่ส่องนำทางจิตใจมนุษย์ ตามกรอบแนวคิด Faith for Rights ขององค์การสหประชาชาติเตือนเราว่า สิทธิมนุษยชนมิใช่เพียงสิทธิทางกฎหมาย หากแต่คือพันธะทางศีลธรรมที่ต้องอาศัยความกล้าหาญ ความเมตตา และความมั่นคงแห่งจิตใจ “สิทธิ” ต้องดำเนินคู่กับ “หน้าที่” เพราะหากปราศจากความรับผิดชอบแล้ว “สิทธิ” ก็อาจกลายเป็นเพียงถ้อยคำที่ว่างเปล่า ในมุมมองเชิงพุทธธรรม การปฏิบัติต่อผู้อื่น ต่อสังคม และต่อโลกใบนี้ แยกออกจากศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ไม่ได้เลย เพราะความดีงามทางศีลธรรมและสิทธิมนุษยชนเป็นรากเดียวกันของความเป็นมนุษย์ที่แท้จริง”

"ศตวรรษแห่งธรรม" (The Dhamma Century) เป็นการประกาศโดยสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ที่มีเป้าหมายเพื่อนำหลักธรรมคำสอนทางพุทธศาสนาไปสู่การปฏิบัติ เพื่อนำไปสู่ความหลุดพ้นและความสันติสุขเชื่อมโยงทุกศาสนา

การประกาศ“ศตวรรษแห่งธรรม” โดยเลขาธิการสถาบันฯที่มีต่อในที่ประชุมนานาชาติครั้งนี้ จึงมิได้หมายถึงเพียงช่วงเวลาแห่งศตวรรษ แต่คือยุคแห่งการตื่นรู้ ยุคที่มนุษย์หวนคืนสู่กฎแห่งความจริงที่อยู่เหนือศาสนาและวัฒนธรรมทั้งปวง ธรรมะคือกฎแห่งธรรมชาติ เป็นระเบียบสากลที่รักษาความสมดุลของจักรวาล เป็นพลังแห่งการปลดปล่อย มิใช่การครอบงำ เป็นพลังแห่งเมตตา ความกล้า และความตระหนักรู้ในตน การดำเนินชีวิตโดยธรรม หมายถึงการมีสติในทุกลมหายใจ เห็นความจริงในทุกขณะ และกระทำด้วยความกรุณาในทุกสถานการณ์ เพราะธรรมะไม่เพียงสอนให้เรารู้ แต่สอนให้เรา “เป็น”

ในโลกปัจจุบันการแสวงหาความสำเร็จภายนอก สู่การสร้างสันติภายในและปัญญา ยุคที่ศรัทธา สิทธิมนุษยชน และความหวัง หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวอย่างกลมกลืน เป็นยุคที่ธรรมะมิได้จำกัดอยู่ในคัมภีร์อีกต่อไป แต่กลายเป็นวิถีชีวิต และพลังแห่งสันติที่แปรเปลี่ยนโลกใบนี้ได้จริง

หลังการการประชุมเสร็จสิ้น เชื่อว่านี่คือจุดเริ่มต้นของพันธกิจร่วมที่ตั้งอยู่บนรากฐานสำคัญสามประการ คือ1.การสร้างสมดุลระหว่างสิทธิกับหน้าที่ เพื่อยืนยันศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ด้วยความเมตตาและความรับผิดชอบ  2. ยกย่องการแสวงหาในฐานะการแสดงออกแห่งศรัทธา เพื่อหล่อหลอมวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ การสนทนา และความถ่อมตนระหว่างศาสนา  3. การประสานความหลากหลายเข้ากับความเป็นสากล เพื่อสร้างเอกภาพท่ามกลางความแตกต่าง อันเป็นรากฐานของการกระทำที่ยุติธรรมและมีศีลธรรม

สำหรับอนาคต สถาบันโพธิคยาวิชาลัย 980 จะมุ่งมั่นสานต่อพันธกิจนี้ ด้วยการเสริมพลังให้เยาวชนมีบทบาทนำในการสร้างอนาคต เราจะส่งเสริมความครอบคลุมของศาสนา เพศ และอัตลักษณ์ทุกรูปแบบ เพื่อสะท้อนถึงความหลากหลายที่แท้จริงของมนุษยชาติ และเราจะยังคงสร้างพื้นที่แห่งสติ เช่น “ธรรมยาตรา 5 แผ่นดินลุ่มน้ำโขง” ซึ่งธรรมะจะคงอยู่เป็นสะพานเชื่อมโยง ปลุกแสงแห่งธรรมในหัวใจของมนุษย์ เพื่อฟื้นคืนสติ ปัญญา และความกรุณา ให้กลับมาเป็นรากฐานของสังคมโลกที่สมดุลและเปี่ยมด้วยความเข้าใจ ในประวัติศาสตร์ของความคิดและการปฏิบัติ ความศรัทธาภายในกลายเป็นพลังแห่งความรับผิดชอบ ที่ซึ่งความหลากหลายเสริมพลังให้กับความเป็นสากล และที่ซึ่งธรรมะส่องแสงนำทางโลกไปสู่ความเมตตา ความยุติธรรม และสันติสุขอันยั่งยืน

#ถาบันโพธิคยาวิชาลัย 980  # Faith for Rights  #ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ(UNCC) กรุงเทพมหานคร