เอกชนนำร่องลดคาร์บอนบ้านติดโซลาร์เซลล์ได้เครดิตแลกแต้มเซ็นทรัล

วันศุกร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2567

การดู : 227

เอกชนนำร่องลดคาร์บอนบ้านติดโซลาร์เซลล์ได้เครดิตแลกแต้มเซ็นทรัล

แชร์ :

มูลนิธิพลังงานสะอาด ผนึกเอกชน ส่งเสริมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เปิดตัวตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ บ้านที่ติดโซลาร์ เซลล์  ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ มีสิทธิคำนวณCarbon Credit แลกเป็นคะแนน The 1 ซื้อของเซ็นทรัลได้  เสนาฯที่ขายบ้านพร้อมโซลาร์รูฟ หอบลูกบ้าน 300 หลังเข้าร่วมทันที

วันที่ 14 มิถุนายน 2567 ดร.สุวิทย์ ธรณินทร์พานิช ประธานกรรมการมูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชนแถลงข่าวประชาสัมพันธ์โครงการตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ ภายใต้งบประมาณหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มเซ็นทรัล และบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคครัวเรือน ในการส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยการเปิดรับพลังงานสะอาด และการมีส่วนร่วมในโครงการ ตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ ที่ห้อง Lotus 3-4 Centara Grand &Bangkok Convention Centre at CentralWorld

ดร.สุวิทย์ ธรณินทร์พานิช

ศ. ดร.อาภาณี เหลืองนฤมิตชัย ประธานคณะอนุกรรมการแผนงานกลุ่มพลังงาน เคมีและวัสดุชีวภาพ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานที่ให้ทุนโครงการ วิจัยและพัฒนาตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในการสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ โดยติดตามข้อมูลการผลิตพลังงานจากระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาและปริมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สามารถนำก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงได้ แลกเปลี่ยนกับสินค้าหรือบริการของภาคธุรกิจที่เข้าร่วม การจัดทำระบบนิเวศของแพลตฟอร์มตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้แพลตฟอร์ม เช่น ภาคครัวเรือนต้องการผลตอบแทนจากการใช้พลังงาน ภาคธุรกิจต้องการปริมาณคาร์บอน เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำในการดำเนินธุรกิจโดยมีอัตราแลกเปลี่ยนที่จูงใจในการทำธุรกรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสร้างคุณค่าสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน

ดร.สุวิทย์ ธรณินทร์พานิช ประธานกรรมการมูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน กล่าวว่า โครงการวิจัยและพัฒนาตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด โดยโครงการจัดทำแพลตฟอร์มติดตามการผลิตพลังงานทดแทนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เน้นครัวเรือนที่ติดตั้ง Solar Cell ก่อน เนื่องจากมีจำนวนผู้ใช้งานมากและมีนโยบายจากภาครัฐที่ชัดเจน

ทั้งนี้แพลตฟอร์มที่จะพัฒนาขึ้นจะแลกเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ไปเป็นสินค้าหรือบริการกับภาคธุรกิจที่เข้าร่วม ภาคธุรกิจนำคาร์บอนที่ได้เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจด้วยแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน และการดำเนินการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net zero emissions) ซึ่งจะเกิดประโยชน์แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องดังนี้ 1 ภาคครัวเรือน มีช่องทางการสร้างรายได้จากการใช้พลังงานสะอาด แลกเป็นสินค้าและบริการจากภาคธุรกิจที่เข้าร่วมผ่านแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้น สร้างคุณค่าให้กับผู้ใช้พลังงานสะอาด เป็นส่วนหนึ่งของการลดภาวะโลกร้อน 2) ภาคธุรกิจ ดำเนินธุรกิจด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียนการใช้พลังงานสะอาด โดยซื้อคาร์บอนเครดิต หรือแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าและบริการให้กับครัวเรือนที่เข้าร่วม ผ่านแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมภาพลักษณ์ของการดำเนินธุรกิจ สอดคล้องกับเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในระยะยาว 3) ประเทศไทย พัฒนาตลาดคาร์บอนครัวเรือนแบบภาคสมัครใจให้เกิดขึ้นจริง ส่งผลให้เป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศเป็นไปตามเป้าหมาย ส่งผลให้ทั้งประชาชนและภาคธุรกิจหันมาใช้พลังงานสะอาดรวมถึงการดำเนินการด้านอื่นที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้มากขึ้น และสร้างผลประโยชน์ร่วมในหลายด้าน เช่น การบรรเทาผลกระทบของมลพิษทางอากาศ, การรักษามั่นคงทางพลังงาน, นวัตกรรมเทคโนโลยี การลดต้นทุนทางพลังงาน การจ้างงาน และลดการย้ายถิ่นฐานเข้าเมือง เป็นต้น ส่งผลให้ประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวหน้าและยั่งยืนต่อไป

คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า ประเทศไทยต้องการคาร์บอนเครดิตอย่างมาก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูง จากกระแสความตื่นตัวความมุ่งมั่นทั้งระดับประเทศและระดับองค์กรที่มีการตั้งเป้าหมายที่จะเป็น Carbon Neutrality และ Net Zero Emissionsและกระแสโลกเรื่อง Climate Change เป็นเรื่องที่สำคัญมากและทุกคนต้องลงมือแก้ปัญหานี้ด้วยกัน โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ที่มีศักยภาพในการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆ กลุ่มเซ็นทรัล มีความต้องการที่จะซื้อคาร์บอนเครดิตมาชดเชยในการจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆ โดยผู้เข้าร่วมโครงการ สามารถนำCarbon Credit 1 ตันคาร์บอน แลกเป็นคะแนน The 1 ได้ 1,600 คะแนน เพื่อเป็นส่วนลดสินค้าและบริการ รวมถึงรับสิทธิประโยชน์ในกลุ่มเซ็นทรัลทั่วประเทศ โดยกลุ่มเซ็นทรัลมุ่งหวังการเติบโตของธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน ตระหนักว่าต้องเริ่มตั้งแต่ต้นทางของห่วงโซ่อุปทานตลอดจนถึงปลายทางของการจัดการอย่างถูกหลัก เป้าหมายคือปรับเปลี่ยนใช้พลังงานสะอาดและยั่งยืน ลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจ ลดปัญหามลพิษด้วยพลังงานสะอาด สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของโลก

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าเสนาฯเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่สร้างบ้านพร้อมติดโซลาร์รูฟให้พร้อมใช้งานตั้งแต่ซื้อบ้านทั้งโครงการเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ปัจจุบันติดตั้งให้กับลูกบ้าน ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมทั้งหมดทุกโครงการรวมกว่า 1,000 หลัง ความร่วมมือครั้งนี้ลูกบ้านที่ติดโซลาร์ และสมัครเข้าร่วมโครงการฯ คาร์บอนเครดิตที่เกิดขึ้นจะนำไปแลกคะแนนเพื่อใช้เป็นส่วนลดหรือซื้อของต่อไปได้เช่น ลูกบ้านที่ติดตั้งโซลาร์ 5kw คาร์บอนเครดิตจะถูกคำนวณและสามารถเปลี่ยนเป็นคะแนน The 1 ได้ 600คะแนนต่อเดือน หรือ 7,200 คะแนนต่อปี ตั้งเป้าว่าจะมีลูกบ้านเข้าร่วมโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 300หลังคาเรือน

รศ.วงกต วงศ์อภัย รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่าสถาบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประเมินภายนอกสำหรับโครงการภาคสมัครใจของประเทศไทย ได้ประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจก ตามมาตรฐานต่าง เช่นThailand Voluntary Emission Reduction Program (T-VER) หรือ คาร์บอนเครดิต ที่องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. กำหนด มีขั้นตอนการดำเนินการ 6ขั้นตอน คือ (1) การจัดทำเอกสารโครงการ (2) การตรวจสอบเอกสาร หรือ Validation (3) การขึ้นทะเบียนโครงการSolar ดังกล่าวกับ อบก. (4) การดำเนินการโครงการพร้อมการตรวจวัดต่างๆ (5) การจัดทำเอกสารขอทวนสอบผลคาร์บอนเครดิตที่ได้ ก่อนที่จะนำไป (6) ยื่นขอรับรองคาร์บอนเครดิตจากทาง อบก.ในท้ายที่สุด ทั้งนี้การตรวจสอบเอกสารและทวนสอบต่างๆถือเป็นความสำคัญและจำเป็นที่ประเทศต้องการ รวมถึงเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง