‘ปลาหมอคางดำ’เป็นวาระแห่งชาติ-อัดงบซื้อทำน้ำหมักสวนยาง
วันจันทร์ ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
การดู : 155
แชร์ :
ธรรมนัส เร่งเครื่องล่าปลาหมอคางดำ เตรียมเสนอ ครม.ขอเป็นวาระชาติ ถกร่วมสมาคมประมง16 จังหวัดรับข้อเสนอสั่งกรมประมงสานต่อ การยางจัดงบรับซื้อเพื่อผลิตเป็นน้ำหมักแจกจ่ายสวนยาง 2 แสนไร่ ผ่อนผันเครื่องมือพื้นบ้านร่วมจับ สมุทรสาครเปิด5จุดรับซื้อ เข้าโรงปลาป่นไปแล้ว 2 แสน กก.
เมื่อวันที่ 21 กค. 67 เวลา 13.00 น. ที่สมาคมการประมงสมุทรสาคร อ.เมือง จ.สมุทรสาคร รอ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จ.สมุทรสาคร ประชุมหารือร่วมกับผู้แทนสมาคมการประมง 16 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหา และสังเกตการณ์การรับซื้อปลาหมอคางดำ ณ จุดรับซื้อ
ที่ประชุมหารือการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ พิจารณาเห็นชอบ 9 มาตรการ ที่สมาคมฯเสนอ มอบหมายกรมประมงนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติอาทิ การผ่อนผันเครื่องมือประมงพื้นบ้านที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการจับปลาหมอคางดำ การจัดสรรงบประมาณเร่งด่วนสนับสนุนในการกำจัดปลาหมอคางดำให้กับชาวประมง ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจในแต่ละจังหวัด เป็นต้น โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้ มอบหมาย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ พร้อมนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี กำหนดประเด็นปลาหมอคางดำเป็นวาระแห่งชาติ
ขณะเดียวกัน กรมประมงออกประกาศ เรื่อง ประชาสัมพันธ์ห้ามเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำ ลงวันที่ 19 กค. 67 มีสาระสำคัญ หากผู้ใดฝ่าฝืนทำการเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำจะถูกดำเนินคดีตามมาตรา 144 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากนำไปปล่อยในที่จับสัตว์น้ำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบเห็นเหตุดังกล่าว ให้แจ้งสำนักงานประมงจังหวัดหรือสำนักงานประมงอำเภอในเขตท้องที่ทุกแห่ง หรือแจ้งเบาะแสพิกัดที่พบการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอดเวลาที่ https://shorturl.asia/3MbkG
นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำเร่งด่วนร่วมกับกรมพัฒนาที่ดินในการนำปลาหมอคางดำที่จับได้ผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพ และขอสนับสนุนงบประมาณจัดตั้งจุดรับซื้อปลาหมอคางดำในพื้นที่ระบาดทุกแห่งจากการยางแห่งประเทศไทย ขณะนี้ได้รวบรวมแพปลาที่ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการด้านการประมง (ทบ.2) กับกรมประมง ในพื้นที่การระบาด 14 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา รวม 49 จุด สำหรับจัดตั้งเป็นจุดรับซื้อปลาหมอคางดำ ประกันราคารับซื้อที่กก.ละ 15 บาท เพื่อนำไปให้สถานีพัฒนาที่ดินแต่ละพื้นที่ผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพ ส่งมอบให้การยางแห่งประเทศไทยแจกจ่ายแก่เกษตรกรในโครงการแปลงใหญ่ฯ ใช้ในพื้นที่สวนยางกว่า 200,000 ไร่ จะเริ่มเปิดจุดรับซื้อปลาหมอคางดำทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 1 สค. 67 นี้ เป็นต้นไป
การลงพื้นที่ของคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรในครั้งนี้ที่จ.สมุทรสาครซึ่งมีรายงานการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำเป็นที่แรกและระบาดมากที่สุด ได้ดำเนินมาตรการสำคัญ สามารถกำจัดปลาหมอคางดำจากแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อเพาะเลี้ยงของเกษตรกร จำหน่ายให้โรงงานปลาป่นและผู้ประกอบการเกี่ยวเนื่องได้มากกว่า 500 ตัน ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีการกำจัดมากที่สุด กรมประมงจึงนำร่องจัดตั้งจุดรับซื้อปลาหมอคางดำขึ้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ทั้งหมด 5 จุด ประกอบด้วย
1. แพธนูทอง หมู่ 2 (ริมคลองพิทยาลงกรณ์) ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โทร. 0804646479
2. แพนางจารุจันทร์ จารวิไพบูลย์ (แพมิตร) หมู่ 2 (ริมคลองพิทยาลงกรณ์) ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โทร. 0873647298
3. นายชัยพร กรุดทอง (บอย) 72 หมู่ 6 ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร (คลองเจ๊ก) โทร. 0626585323
4. นายเฉลิมพล เกิดปั้น หมู่ 5 ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร โทร. 0871714414
5. แพนายวิชาญ เหล็กดี หมู่ 2 (ริมคลองพิทยาลงกรณ์) ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โทร. 0971950564
โดยแพนายวิชาญสมัครเข้าร่วมโครงการฯ เป็นจุดรับซื้อเพื่อจำหน่ายกับโรงงานปลาป่นตั้งแต่วันที่ 18 เมย. 67 รับซื้อปลาหมอคางดำจากเกษตรกรและชาวประมงไปแล้ว 202,053 กก.
นอกจากนี้ รอ.ธรรมนัสและคณะผู้บริหารได้เยี่ยมชมกระบวนการผลิตน้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอคางดำโดยสถานีพัฒนาที่ดินสมุทรสาคร กรมพัฒนาที่ดิน ตามที่ประมงจังหวัดสมุทรสาครได้ประสานในการรับซื้อปลาหมอคางดำสำหรับผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพคุณภาพสูง (สูตรไนโตรเจนสูง) 4,000 ลิตร โดยแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ กลุ่มหมอดินอาสา กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชผัก ฝรั่ง ลำไย มะพร้าวน้ำหอม และพลู คิดเป็นพื้นที่ได้รับประโยชน์รวมกว่า 533 ไร่
ข่าวอัพเดท