คิดใหม่ใช้MLบูรณาการจริงจังลดอุบัติเหตุทางถนน
วันอังคาร ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2567
การดู : 673

แชร์ :
หมอนักวิจัยเปิดแนวคิดใหม่ลดอุบัติเหตุทางถนน ระดมทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ใช้ Machine Learning (ML) รายงานตัวเลขเรียลไทม์กระตุ้นให้แก้ไขแบบไม่ชักช้า เอาสถิติเจ็บตายมาอ้าง แต่ตรวจสอบลึกถึงวัย โรคประจำตัว ที่เกิดเหตุบ่อยให้ท้องที่ลงกวดขันป้องกัน
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้จัดการประชุมเมื่อเร็วๆนี้ ที่โรงแรมแกรนด์ ริชมอนต์ สไตลิช คอนเวนชั่น จ.นนทบุรี เผยแพร่โครงการการวิจัยเชิงปฏิบัติการโดยบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตให้สอดคล้องกับเป้าหมายแผนแม่บทฉบับที่ 5 มี นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ จากสมาคมวิศวกรรมชีวการแพทย์ไทยเป็นหัวหน้าโครงการวิจัย

นพ.ชาญวิทย์ กล่าวว่า เขตสุขภาพที่ 8 ร่วมกับสมาคมวิศวกรรมชีวการแพทย์ไทย ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยเรื่องการวิจัยเชิงปฏิบัติการโดยบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตให้สอดคล้องกับเป้าหมายแผนแม่บทฉบับที่ 5 ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยการบูรณาการทุกภาคส่วน ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 – มิถุนายน 2567 เพื่อลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิต ที่ใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนนโยบาย / มาตรการ ที่สอดคล้องกับบริบททั้ง 7 จังหวัด ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 8 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบไปด้วย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย นครพนม เลย บึงกาฬ และสกลนคร การวิจัยครั้งนี้ เป็นการบูรณาการข้อมูลจากระบบสารสนเทศ พัฒนาข้อมูลส่วนขาดนำไปใช้กำหนดยุทธศาสตร์ นโยบาย มาตรการการดำเนินการ ติดตาม กำกับ โดยพัฒนารูปแบบจำแนกความเสี่ยง ทั้งคน สิ่งแวดล้อม ถนน ยานพาหนะ ระบบส่งต่อทรัพยากรสุขภาพ ในการจัดกลุ่มเป้าหมายและลำดับความสำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงแต่ละพื้นที่ ตลอดจนการพัฒนา ชุมชน โครงสร้างกฎหมาย ระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ระบบบริการสาธารณสุข โดยใช้กลไกการจัดการในระดับเขตและระดับพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัย ด้วยการบูรณาการแบบมีส่วนร่วม
นพ.ชาญวิทย์ ระบุว่า การบูรณาการ ไม่ใช่เพียงแค่การประชุมร่วมกัน แต่เชิญทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนมาพิจารณาแก้ปัญหาด้วยกัน โดยงานวิจัยจะสนับสนุนให้ทุกหน่วยบรรลุเป้าหมายเดียวกัน เช่นกระทรวงสาธารณสุข มีเป้าหมายลดการเสียชีวิต กระทรวงคมนาคม เป้าหมายลดการเกิดอุบัติเหตุ กระทรวงมหาดไทย มีศูนย์ปฏิบัติการลดอุบัติภัยทางถนนตั้งแต่ระดับจังหวัดจนถึงอำเภอ โดยสร้างกลไกให้เกิดการบูรณาการ มีเครื่องมือให้เกิดการใช้ร่วมกัน เห็นภาพเดียวกัน นำข้อมูลเวชระเบียนอิเลกทรอนิกส์จากโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้ง 931 แห่ง แบบ Realtime ร่วมกับข้อมูลจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน พัฒนานวัตกรรม Train Risk Predictive Machine Learning Model หรือการใช้ แมชชีนเลิร์นนิ่ง (Machine Learning=ML) ระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองจากข้อมูลจำนวนมาก จำแนกความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุของประชาชนทั้งเขต พร้อมมี Dashboard หรือหน้าจอสรุปข้อมูลทุกอย่างในหน้าจอเดียว แสดงอุบัติเหตุและความเสี่ยงต่าง ๆ แต่ละพื้นที่ แบบ Realtime ช่วยในการสอบสวนอุบัติเหตุแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ และการจัดการอุบัติเหตุระดับเขต จังหวัด จนถึงรายพื้นที่ ให้ใช้ข้อมูล ในการกำหนดยุทธศาสตร์ นโยบาย ดำเนินการได้สอดคล้องกับบริบทและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
การดำเนินการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่เดือน มีนาคม 2566 ช่วงแรก ได้ประชุมหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 7 แห่ง เพื่อกำหนดเป้าหมายร่วมกันในการลดอุบัติเหตุและกำชับหน่วยปฏิบัติให้ติดตามข้อมูลที่รายงานบนDashboard และหาทางแก้ไขร่วมกัน โดย นพ.ชาญวิทย์ ยกตัวอย่าง การแก้ปัญหารายจุด หน้าโรงพยาบาลอำเภอแห่งหนึ่ง รถที่ออกจากโรงพยาบาลเลี้ยวขวา ถูกรถทางตรงเฉี่ยวชน พบว่าไม่มีป้ายเตือน ก็เสนอปรับปรุงมีระบบสัญญาณไฟ หรือมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นักศึกษาขี่จักรยานยนต์ออกทางด้านหน้า เลี้ยวขวา เห็นรถที่ตรงมาจะเลี้ยวซ้ายเข้าประตู แต่ไม่เห็นรถที่ตามหลังมา จึงเคลื่อนออกไป มีโอกาสโดนรถทางตรงที่วิ่งผ่านประตูชนเอาได้ ก็แก้ไข โดยทำช่องเว้าบริเวณทางเข้าให้มีมุมมองบริเวณประตูกว้างขึ้น
ข้อมูลยังเชื่อมโยงกับประวัติการเจ็บป่วยของผู้ประสบอุบัติเหตุ ML อาจประมวลผลถึงประเภทกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เช่น ผู้สูงอายุ มีโรคเบาหวาน บางจังหวัดมีจำนวนครั้งเกิดเหตุบ่อย หรือวัยรุ่น ขับรถเร็ว ข้อมูลนี้ ทำให้แต่ละพื้นที่นำไปกวดขันกับรายกลุ่มเสี่ยง ทั้งนี้ มีการจำแนกรายกลุ่มไว้ถึง 51 กลุ่ม และเท่าที่นำนวัตกรรมการบูรณาการลดอุบัติเหตุใช้ในพื้นที่ 7 จังหวัด ตัวเลขการเสียชีวิตลดลง 50 ราย

ส่วนการใช้สถิติจำนวนการอุบัติเหตุเป็นเกณฑ์การเฝ้าระวังที่ทำกันโดยทั่วไปนั้น นพ.ชาญวิทย์ระบุว่า หากบริบทต่างๆเปลี่ยนไป ข้อมูลที่มีอาจนำใช้ประโยชน์ไม่ได้ เช่น อุบัติเหตุปี 2566 สูงกว่าปี 2565 เพราะระบบเศรษฐกิจเปิดมากขึ้นหลังสถานการณ์โควิด19 ประกอบกับการจำหน่ายจักรยานยนต์มีมากขึ้น จำนวนไรเดอร์เพิ่มเพราะบริการส่งสินค้าได้รับความนิยม

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. เล็งเห็นความสำคัญของการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน จึงสนับสนุนทุนวิจัยให้กับแผนงานวิจัยและนวัตกรรมด้านความปลอดภัยทางถนน ที่ นพ.ชาญวิทย์ เป็นหัวหน้าโครงการ จุดมุ่งหมายคือ ต้องเกิดการขับเคลื่อนผลงานวิจัยไปสู่การปฏิบัติจริง เกิดผลผลิตจากการดำเนินงานที่ต้องมีความสอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนนของประเทศ ลดอัตราการเสียชีวิต สร้างความปลอดภัย พัฒนาเครือข่าย การมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ในการนำนวัตกรรมทางด้านความปลอดภัยทางถนนไปบูรณาการเพื่อลดการสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดจากปัญหาอุบัติเหตุ วช. มุ่งหวังให้ประเทศไทย สามารถป้องกัน ลดอุบัติเหตุ ลดการบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้ลดลงมากที่สุด โดยมีเป้าหมายในการลดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บบนท้องถนนให้ลดลงได้มากที่สุดต่อไป
จากรายงานอุบัติเหตุทางถนนของกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ค่าเฉลี่ย 7 ปีของอุบัติเหตุทางถนน ระหว่างปี 2559-2565 มี 76,861 ราย จำนวนการเสียชีวิต ค่าเฉลี่ย 7 ปี 7,728 ราย บาดเจ็บเฉลี่ย 5,025 ราย
ข่าวอัพเดท

เผยผลชันสูตรซากวาฬคูเวียร์เกยตื้น จ.ระนอง
วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

โชว์ต้นแบบฟาร์มไข่ผำพรีเมียมด้วยเทคโนโลยี IoT
วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

“ครัวคุณต๋อยยกทัพ บุก เซ็นทรัล หาดใหญ่” เสิร์ฟ 70 ร้านหรอยแร๊งง…คัดสรรมือโปรพร้อมโชว์ฝีมืออร่อย!
วันศุกร์ ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
